"อนุทิน" ลั่น อภ. เริ่มผลิตยาฟาวิพิราเวียร์เอง ก.ค.นี้ ขณะที่ "สาธิต" เผยแนวทางการดูแลผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียวที่บ้าน (Home Isolation)อยู่ภายใต้การการพิจารณาของบุคลากรการแพทย์เริ่มดำเนินการแล้ววันนี้ (28 มิ.ย.) เฉพาะพื้นที่กทม. 

 

เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) พร้อมด้วย นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ กับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วประเทศ โดยใช้เวลาในการประชุมเกือบ 2 ชั่วโมง 

 

นายอนุทิน กล่าวว่า ในการประชุมวันนี้เพื่อสั่งการให้นพ.สสจ. บริหารจัดการสถานพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดให้เตรียมสถานที่ ยา เวชภัณฑ์เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ มีระบบการส่งต่อ และมอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข บริหารจัดการสถานพยาบาลทุกแห่ง ในทุกจังหวัดภายใต้เขตสุขภาพนั้นๆ ให้พร้อมรับมือกับผู้ติดเชื้อฯ โดยในส่วนของแรงงานที่มีการเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาของตนนั้นให้มีการปฏิบัติมาตรการควบคุมป้องกันภายใต้มาตรการที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนั้นๆ กำหนด เช่น การให้มีการกักตัวที่โลคอลควอรันทีน โดยเฉพาะคนต่างถิ่น ทั้งนี้ไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตามหากเป็นแรงงานผิดกฎหมายนายจ้างต้องดูแลด้วย 

 

“รูปแบบเหมือนกับการดูแลประชากรที่เดินทางกลับภูมิลำเนาเมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้การดูแลแต่ละจังหวัดมีประสิทธิภาพ อสม. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลได้ง่ายขึ้น การควบคุมป้องกันโรคนั้นกระทรวงสาธารณสุขทำคนเดียวไม่ได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ เพื่อควบคุมไม่ให้มีการติดเชื้อเพิ่ม ส่วนในแง่ของการรักษาซึ่งเป็นหน้าที่หลักกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการเต็มที่ ” นายอนุทิน กล่าว 

 

สำหรับ พื้นที่กทม. ซึ่งเป็นปัญหามากในเรื่องของการติดเชื้อจำนวนมากนั้น กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้มีอำนาจเข้าไปดูแล แต่ก็ช่วยกันแบ่งเบาภาระ เบื้องต้นที่ต้องมีการขยายเตียงสำหรับรองรับผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม ซึ่งเพิ่งเปิดรพ.สนามที่มีลักษณะเป็นโคฮอทวอร์ด และไอซียู ที่มณฑล ทหารราบ 11 จำนวน 180 เตียง นอกจากนี้ ก็จะขยายเตียงที่รพ.สนามบุษราคัมเพิ่มเติมอีกราวๆ 1 พันเตียง และในวันนี้ (28 มิ.ย.) ตนจะเดินทางไปหารือกับเจ้าของพื้นที่เมืองทองธานี เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการขยายเวลาใช้พื้นที่เมืองทองธานี ในการทำเป็นรพ.สนามด้วย ส่วนบุคลากรที่จะมาดูแลก็เป็นระบบหมุนเวียนมาจากพื้นที่ต่างจังหวัด 

 

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันก็เดินหน้าฉีดวัคซีนอย่างเต็มที่ โดยภายในเดือนนี้จะสามารถฉีดวัคซีนให้ประชากรได้ 10 ล้านโดส ตามเป้าหมาย ขณะนี้ฉีดไปได้แล้วกว่า 9 ล้านโดส ส่วนที่เหลือนั้นวัคซีนก็มีในสต็อกอยู่แล้ว เดือนหน้าก็จะเข้ามาอีก อย่างไรก็ตาม ตนได้มอบหมายให้ทุกพื้นที่เร่งฉีดวัคซีนให้กลุ่มเป้าหมายคือผู้สูงอายุ และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค ให้หมดภายในส.ค. เชื่อว่าหากฉีดกลุ่มนี้ครบอัตราการเสียชีวิตน่าจะลดลง ส่วนเรื่องยารักษาฟาวิพิราเวียร์ นั้นไม่ต้องกังวลมีเพียงพอแน่นอน ซึ่งปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) ยืนยันว่าได้มีการสั่งซื้อเข้ามาใช้อย่างเพียงพอ และล่าสุดได้รับรายงานจากนพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.อภ.ว่า ภายในเดือนก.ค. นี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะมีการอนุญาตให้อภ. สามารถผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ได้เองแล้ว ซึ่งเมื่อได้รับการอนุญาตแล้วจะสามารถผลิตได้ภายในเดือน ส.ค.นี้ อัตรากำลังการผลิตในช่วงแรกอยู่ที่เดือนละ 2 ล้านเม็ด อาจจะดูว่าเป็นจำนวนที่น้อย แต่นี่เป็นช่วงเริ่มต้นที่นำมาเป็นส่วนเสริมจากที่มีการนำเข้า  

 

ด้าน นายสาธิต กล่าวว่า สำหรับแนวทางการดูแลผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียวที่บ้าน (Home Isolation) นั้นจะอยู่ภายใต้การการพิจารณาของบุคลากรการแพทย์ และอยู่ในระบบการตรวจสอบ ติดตามอาการ หากอาการเปลี่ยนแปลงก็มีระบบส่งต่อไปรักษาตัวยังรพ. โดยแนวทางดังกล่าวเริ่มดำเนินการแล้ววันนี้ (28 มิ.ย.) เฉพาะพื้นที่กทม. หวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากประชาชน