“อนุทิน-สาธิต” พร้อมผู้บริหาร สธ. แสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิต เหตุคนร้ายบุกยิง รพ.สนาม ด้าน รมว.สธ.เผยกรณีที่เกิดช่วงตี 3 เป็นช่วงที่ต้องปิดล็อกแล้ว แต่กลับปล่อยให้มีการขับรถเข้ามาได้อย่างไร เตรียมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์กรณีคนร้ายบุกยิงผู้ป่วยโควิด 19 ที่อยู่ รพ.สนาม ภายในสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) หรือสถาบันธัญญารักษ์ จ.ปทุมธานี เสียชีวิต 1 ราย ว่า ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตและครอบครัวถึงเกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ การกระทำของคนร้ายนับว่าอุกอาจมาก ลงมืออย่างเลือดเย็นและไม่มีความตื่นตระหนก ซึ่งจริงๆ รพ.เป็นสถานที่ที่ต้องมีความปลอดภัย เพราะแม้ยามศึกสงครามก็ยังมีหลักการว่าไม่ไปโจมตีกันใน รพ. ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหตุการณ์วัยรุ่นยกพวกตีกันใน รพ.จนต้องนำกำลังตำรวจมาดูแล แต่ครั้งนี้เป็นการบุกเข้ามายิงใน รพ. ซึ่งจะปล่อยให้เกิดขึ้นไม่ได้
"ผมได้โทรศัพท์หาผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีว่าจะปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในจังหวัดในประเทศไทยไม่ได้ ขอให้ระดมกำลังอย่างเต็มที่ในการไล่ล่าผู้กระทำความผิด ซึ่งเชื่อว่าทั้งฝ่ายความมั่นคงและตำรวจคงไม่นิ่งนอนใจ อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการปรับปรุงเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัยด้วย เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณตี 3 ซึ่งเป็นช่วงที่ควรจะต้องปิดล็อกแล้ว ปล่อยให้มีการขับรถเข้ามาได้อย่างไร โดยกำลังจะลงพื้นที่ไปตรวจเยี่ยมและดูแลขวัญกำลังใจผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ส่วนผู้เสียชีวิตจะมีการเยียวยาแน่นอน เพราะเกิดเหตุในพื้นที่ที่เราดูแลผู้ป่วย" นายอนุทินกล่าว
วันเดียวกัน ที่สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) จ.ปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ และคณะ ลงพื้นที่เยี่ยม สร้างขวัญกำลังใจบุคลากร ภายหลังเกิดเหตุคนร้ายบุกยิงผู้ป่วยโควิด 19 ที่โรงพยาบาลสนามในพื้นที่ของ สบยช. เสียชีวิต 1 ราย
นายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า ขอแสดงความเสียใจกับผู้เคราะห์ร้ายต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทุกคนที่เผชิญเหตุ ซึ่งสถาบันแห่งนี้มีระบบรักษาความปลอดภัย การคัดกรองผู้เข้า-ออก นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้ป่วยโควิดทีมนี้ผ่านการอบรมแผนเผชิญเหตุ ตามหลักสูตรการจัดการภาวะวิกฤติของหลักสูตรทีม Thailand EMT กรมการแพทย์ ทำให้เจ้าหน้าที่มีสติ ไม่ตระหนก สามารถรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดหมายได้เป็นอย่างดี แต่เนื่องจากโรงพยาบาล เป็นสถานที่ที่มีการรับผู้ป่วยตลอด 24 ชม. ทำให้ไม่สามารถปิดการเข้าออกในยามวิกาลได้ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในโรงพยาบาล ซึ่งควรเป็นสถานที่ที่ปลอดภัย จึงได้สั่งการให้โรงพยาบาลทุกแห่งอย่างเข้มยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย ป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ ทั้งการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาดูแลเป็นพิเศษ เพิ่มความถี่
การตรวจเวรยาม การตรวจคัดกรองเดินทางเข้า-ออกในโรงพยาบาล โดยเฉพาะในยามวิกาล
นายอนุทิน กล่าวระหว่างการลงพื้นที่เยี่ยมรพ.สนาม สถาบันธัญญารักษ์ฯ ว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ พบว่า คนร้ายเลือกเดินไปอาคาร และผู้เคราะห์ร้าย ไม่ได้รู้จักคนร้าย แต่เดินออกมา คนร้ายก็ยิง อย่างไรก็ตาม เท่าที่ทราบคนร้ายเคยรักษาอาการทางจิตเวชที่รพ.เอกชน
- 12 views