ศบค.เผยกรณีโรงเรียนมัรกัส จ.ยะลา มีรายงานติดเชื้อคลัสเตอร์เดียวกัน 402 รายกระจาย 12 จังหวัด เผยไทม์ไลน์นักเรียนมีพฤติกรรมติดเชื้อจากการรวมกลุ่ม รับประทานอาหารร่วมกัน ทำกิจกรรมทางศาสนาโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย ขณะนี้พื้นที่ปิดโรงเรียน ปิดพื้นที่เสี่ยง พร้อมค้นหาเชิงรุกในชุมชน
วันที่ 21 มิ.ย. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) กล่าวว่า กรณีโรงเรียนมัรกัส จ.ยะลา ชุมชนมีโรงเรียนและสถานประกอบศาสนกิจ รายงานติดเชื้อคลัสเตอร์เดียวกัน 402 ราย กระจาย 12 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส 111 ราย ยะลา 102 ราย สตูล 46 ราย ปัตตานี 46 ราย สงขลา 36 ราย กระบี่ 18 ราย พัทลุง 13 ราย นครศรีธรรมราช 10 ราย สุราษฎร์ธานี 9 ราย พังงา 5 ราย ตรัง 3 ราย และภูเก็ต 3 ราย พบยืนยันคล้ายไข้หวัดรายแรก 9 มิ.ย. เมื่อสอบสวนโรค ผู้ติดเชื้อคนแรกน่าจะมี 29 พ.ค.
ประชากรชุมชนประมาณ 3-4 พันคน จำนวนนี้เป็นนักเรียน 500 คน มาจากจังหวัดในพื้นที่ 17 จังหวัด กรมควบคุมโรครายงานไทม์ไลน์นักเรียนที่มีพฤติกรรมติดเชื้อจะเป็นการรวมกลุ่ม รับประทานอาหารร่วมกัน ทำกิจกรรมทางศาสนาโดยไม่สวมหน้ากาก มีการใช้ถาดอาหารหรือแก้วน้ำร่วมกัน
การจัดการพื้นที่ได้ปิดโรงเรียนปิดพื้นที่เสี่ยง สอบสวนโรค ค้นหาเชิงรุกในชุมชน หาคนสัมผัสเสี่ยงสูงเสี่ยงต่ำ ออกประกาศให้คนที่สงสัยว่าเกี่ยวข้องกับนักเรียนหรือคนในชุมชนให้มารายงานตัวเพื่อรับการตรวจหาเชื้อ รับคำแนะนำเฝ้าระวัง ประสานทุกจังหวัด นักเรียนปิดเดินทางกลับบ้าน ปลายทางรับแจ้งข้อมูลเฝ้าระวังสอบสวนโรค และทำความเข้าใจประชาชน เราเห็นบ่อยการเดินทางข้ามพื้นที่ พฤติกรรมเสี่ยงและการรวมกลุ่ม ต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด
ที่ประชุมมีการหารือกันถึงกรณีโรงเรียนปิดตัวลง เช่น พิษณุโลกและมหาสารคามก่อนหน้านี้ มีการทบทวนมาตรการปิดโรงเรียน ที่ประชุมหารือว่าการพิจารณาสั่งปิดโรงเรียน โรงเรียนควรปรึกษาหารือรายงานไปยังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดก่อนการปิด เมื่อปิดต้องมีระบบดูแล ทำความเข้าใจเด็ก ผู้ปกครอง พื้นที่ จังหวัดปลายทางที่เด็กเดินทางกลับบ้าน กรมควบคุมโรคเสนอว่ากรณีปิดโรงเรียนเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด ต้องแนะนำให้คนเสี่ยงสูงอยู่บ้านกักตัว ไม่อนุญาตพบปะรวมกลุ่มญาติมิตรครอบครัว ตลาด ชุมชน เพราะจะกลายเป็นความเสี่ยง สธ.และมท.แจ้งไปยังจังหวัดต้นทางปลายทาง และให้ความช่วยเหลือ
อ่านต่อ : กรมวิทย์ติดตามโควิดโรงเรียนประจำในจ.ยะลา หลังพบสายพันธุ์อังกฤษกับแอฟริกาใต้
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org
- 24 views