นายกรัฐมนตรีออกแถลงการณ์เตรียมเปิดประเทศ 120 วัน เมืองท่องเที่ยวที่สำคัญๆ หากพร้อมได้เร็วกว่าสามารถทยอยเปิดได้ นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ควรเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว และไม่ต้องมีเงื่อนไขข้อห้าม รวมทั้งคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ หากฉีดวัคซีนครบโดสก็ควรกลับเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัวเช่นเดียวกัน
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 16 มิ.ย. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงการณ์เรื่องนโยบายสำคัญประเด็นการจัดการโรคโควิด-19 และการเตรียมพร้อมเปิดประเทศ โดยมีใจความสำคัญตอนหนึ่ง ว่า
“ในช่วง 1 เดือนกว่าที่ผ่านมานี้ การที่ผม ในฐานะนายกรัฐมนตรีสามารถสั่งการโดยตรงได้ มีเป้าหมายเพื่อช่วยบูรณาการ การทำงาน และช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในการทำงานใหญ่ ที่มีหลายหน่วยงานมาเกี่ยวข้อง วันนี้มีส่วนช่วยให้หน่วยงานและคณะกรรมการชุดต่างๆสามารถทำงานร่วมกันอย่างฉับไว และเป็นไปในทิศทางเดียวกันมากขึ้น ตลอดจนแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว เป็นการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดบนพื้นฐานการรับฟังคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญจากทุกกระทรวง ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง วิธีการทำงานแบบนี้เป็นวิธีเดียวกับที่เราใช้ช่วงเกิดโควิดเริ่มต้น ซึ่งวิธีการนี้ทำให้เดินหน้า และมีความคืบหน้าในการเจรจาผู้ผลิตวัคซีนรายใหม่ๆ ได้อย่างดี”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทำงานกับผู้ผลิตวัคซีน 6 รายแล้ว ทั้งไฟเซอร์ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน แอสตร้าฯ ซิโนแวค และซิโนฟาร์ม และยังเดินหน้าจัดหาวัคซีนอื่นๆเพิ่มเติม ขณะนี้มีการลงนามสัญญาจอง และซื้อไปแล้ว 105.5 ล้านโดส ซึ่งเกินเป้าหมายทั้งไว้ในปีนี้ และทั้งหมดจะทยอยเข้ามา และปีหน้าจะจัดหาเพิ่มเติมอีก โดยแผนนี้จะฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้เฉลี่ยเดือนละ 10 ล้านโดส หากวัคซีนส่งมาได้เพียงพอ และต้นเดือน ต.ค. จะมีประชาชนได้วัคซีนอย่างน้อยเข็มแรก 50 ล้านคน
“ตอนนี้ถึงเวลาแล้ว ที่เราจะต้องมองไปในอนาคตที่ไกลขึ้นอีก คือ การเปิดประเทศ และรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยอีกครั้ง นี่คือหนทางสำคัญหนทางหนึ่ง ที่จะช่วยบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ที่ไม่สามารถทำมาหากินกันได้มาเป็นระยะเวลานาน วันนี้ ผมขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า ผมตั้งเป้าเอาไว้ว่า ประเทศไทยจะต้องเปิดประเทศทั้งประเทศ ให้ได้ภายใน 120 วัน นับจากวันนี้ ส่วนเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญๆ หากพร้อมได้เร็วกว่า ก็ควรทยอยเปิดให้ได้เร็วกว่านั้น นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ควรเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว และไม่ต้องมีเงื่อนไขข้อห้าม รวมทั้งคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ หากฉีดวัคซีนครบโดสก็ควรกลับเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว”
(ข่าวเกี่ยวข้อง : ศิริราชเผยสถานการณ์ฉีดวัคซีนโควิดสูง แต่ปัจจัยสายพันธุ์มีผลต่อการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วย! )
“ส่วนสถานที่ทำงาน ธุรกิจร้านค้าควรทำได้ การเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศควรทำได้โดยไม่มีข้อห้าม หรือข้อบังคับแบบบเหมารวมทั้งจังหวัด ยกเว้นหากมีสถานการณ์ร้ายแรงใหม่เกิดขึ้น หรือมีความจำเป็นจริงๆ ก็ให้พิจารณาเป็นกรณีไป ผมขอให้ทุกหน่วยงานภาครัฐ และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อสามารถเปิดได้ และต้องดำเนินการฉีดวัคซีนให้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเดินหน้าเปิดประเทศใน 120 วัน และเราจะนำร่องที่จ.ภูเก็ต และนำนักท่องเที่ยวเข้ามาแบบแซนต์บ็อกซ์
“ผมรู้ดีว่าการตัดสินใจของผมวันนี้ มาพร้อมกับความเสี่ยง เพราะเมื่อเราเปิดประเทศ ไม่ว่าเราจะเตรียมการป้องกันขนาดไหนก็ตาม ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นบ้าง แต่เมื่อเราประเมินสถานการณ์ และคิดถึงความอยู่รอดในการทำมาหากินของพี่น้องประชาชน ผมคิดว่า ถึงเวลาแล้วครับที่เราจะต้องยอมรับความเสี่ยงร่วมกันบ้าง หากความเสี่ยงนั้น เราได้ประเมินอย่างรอบคอบแล้วว่า อยู่ในระดับที่พอจะรับได้ เราต้องจัดลำดับความสำคัญภายใน สำหรับประเทศไทยของเรา เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ครับ”
“เราได้เห็นกันแล้วและต้องทำใจว่า ทั่วโลกยังจะต้องอยู่กับไวรัสนี้ต่อไปอีก ซึ่งก็รวมถึงประเทศไทยด้วย แต่อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถรอจนไวรัสนี้หมดไปจากโลก และเราก็ไม่สามารถรอจนทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดสกันถ้วนหน้าก่อน แล้วจึงค่อยเปิดประเทศ สิ่งที่เราต้องทำก็คือ เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันให้ได้เหมือนกับโรคภัยอื่นๆ จัดการโควิดให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และให้พี่น้องประชาชนสามารถกลับออกมาทำมาหากินกันได้อีกครั้ง นี่คือนโยบายของผม และเป็นเป้าหมายที่ผมตั้งไว้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org
- 18 views