อธิบดีกรมควบคุมโรคเผยสถานการณ์โควิดระลอกใหม่ เมษายนพบรายใหม่ 985 ราย แนวโน้มการระบาดยังเพิ่มต่อเนื่องเชื่อมโยงคลัสเตอร์สถานบันเทิง พร้อมแบ่งการระบาดเป็น 5 ระดับพื้นที่สี รอบนี้คนทำงาน วัยรุ่น นักศึกษามากสุด วอนลดกิจกรรม เหตุระบาดรอบนี้เที่ยวจุดหนึ่ง ไปอีกจุดหนึ่ง กลับบ้านนำเชื้อระบาดวงกว้าง ขณะที่วัคซีนล็อต 3 อยู่ระหว่างตรวจสอบคุณภาพห้องปฏิบัติการ คาด 2-3 วันเสร็จ
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 12 เม.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศ /วัคซีนโควิด 19 ว่า สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด19 ของประเทศไทย ขณะนี้กระจายวัคซีนไปแล้วประมาณ 1 ล้านโดส โดยตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-11 เม.ย.2564 ฉีดไปแล้ว 570,052 โดสใน 77 จังหวัด โดยฉีดไปแล้วเข็มที่ 1 จำนวน 498,791 ราย และเข็มที่ 2 จำนวน 71,261 ราย ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมาย และล่าสุดวัคซีนที่เข้ามาล็อตที่ 3 จากซิโนแวค อยู่ระหว่างตรวจสอบคุณภาพทางห้องปฏิบัติการ คาดว่า 2-3วันจะแล้วเสร็จและจะเร่งกระจายเพื่อฉีดต่อไป หลังจากนั้นเดือนมิ.ย.ก็จะมีวัคซีนอีก 6-10 ล้านโดสต่อเดือนก็จะฉีดครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป
สำหรับสถานการณ์ทั่วโลกสะสม 136,630,352 ราย เสียชีวิต 2,949,276 ราย โดยสถานการณ์แต่ละประเทศ ขณะนี้อินเดียน่าเป็นห่วงมากขึ้นไปแต่ละวัน 169,914 ราย สำหรับเพื่อนบ้านเรารอบอาเซียน คือ กัมพูชา มีรายงานผู้ติดเชื้อมาหลายร้อยคนมาตลอด ทั้งที่ประชากรน้อยกว่าไทย 5-6 เท่า อีกประเทศที่จับตาค่อนข้างมากคือ มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
สำหรับประเทศไทยสถานการณ์การระบาดระลอกใหม่ เมษายน 2564 ตั้งแต่วันที่ 1-12 เม.ย. 64 พบวันนี้ติดเชื้อรอบ 24 ชั่วโมง จำนวน 985 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ จากในระบบบริการ 634 ราย คัดกรองเชิงรุก 346 ราย และมาจากต่างประเทศ 5 ราย ผู้ป่วยสะสมระลอกนี้ 5,265 ราย ยังรักษาใน รพ. 4,638 ราย ในรพ.สนาม 582 ราย อาการหนักใส่เครื่องช่วยหายใจ 9 ราย ทั้งนี้ หายป่วยแล้ว 822 ราย ไม่พบเสียชีวิตเพิ่ม โดยหากนับการเสียชีวิตระลอกนี้พบ 3 ราย
ทั้งนี้เมื่อแบ่งการระบาดระลอกนี้ ตามพื้นที่และปัจจัยเสี่ยง พบว่า กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และจังหวัดอื่นๆ โดยปัจจัยเสี่ยงมากที่สุด คือ สถานบันเทิง ร้านอาหาร รองลงมาคือ ตลาด ชุมชน โดยกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ระบาดสูงสุดในระลอกนี้ โดยสถานการณ์รายวัน ณ วันที่ 12 เม.ย. กรุงเทพฯ ลดลงจากเมื่อวาน วันนี้พบ 137 ราย แต่ภาพรวมก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนจังหวัดที่วันนี้มีเคสมากคือ เชียงใหม่ 246 ราย จากเมื่อวาน(11 เม.ย.) 189 ราย
นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า การระบาดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งก็ต้องจับตาในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ แม้จะเริ่มชะลอตัวบ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม รูปแบบการระบาดแตกต่างจากคราวที่ผ่านมา เพราะคราวนี้พบการระบาดในวัยทำงาน คนหนุ่มสาว นักศึกษา และช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมของสถานศึกษา มหาวิทยาลัยหลายแห่ง รวมทั้งผู้ไปเที่ยวสถานบันเทิงก็กลับบ้านเยอะ ทั้งนี้เมื่อแบ่งการระบาดออกเป็นสี จะแบ่งได้ 5 ระดับ ดังนี้
1.ในจังหวัดที่เป็นสีขาว เป็นจังหวัดไม่พบผู้ติดเชื้อ เช่น ปัตตานี พังงา กระบี่ ระนอง
2.จังหวัดสีเขียว เป็นจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อในกทม. ปริมณฑล และกระจายไปจังหวัดบ้านเกิด แต่เมื่อไปถึงมีการตรวจจับเชื้อได้รวดเร็ว เป็นพื้นที่ที่ไม่ได้ติดเชื้อในพื้นที่
3. จังหวัดสีเหลือง มีผู้ติดเชื้อจังหวัดอื่นเดินทางมาจังหวัดปลายทาง และเกิดการติดเชื้อในครอบครัว พ่อแม่
4.จังหวัดสีส้ม มีการระบาดในจังหวัดตัวเอง แต่ไม่มาก เป็นกลุ่มก้อนน้อยกว่า 50 คน มีภูเก็ต ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม สระบุรี ระยอง
5.จังหวัดสีแดง มีการระบาดในจังหวัดตัวเองและมีกลุ่มก้อนมากกว่า 100 คนขึ้นไป มี 5 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และสระแก้ว
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า แผนที่นี่แสดงให้เห็นถึงการระบาด ไม่เกี่ยวกับแผนที่มาตรการต่างๆของ ศบค. อย่างไรก็ตาม แต่ละจังหวัดก็จะมีมาตรการ อย่างเชียงใหม่ มีมาตรการทั้งรพ.สนาม ค้นหาเชิงรุก ส่วนใหญ่ของเชียงใหม่ จะสัมพันธ์กับนักศึกษา เพราะเป็นช่วงปิดเทอม มีกิจกรรมร่วมกัน เที่ยวสถานบันเทิง มีกิจกรรมออกค่าย ทำให้มีการระบาดในเชียงใหม่ค่อนข้างมาก นอกจากนี้ กรณีที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีการดำเนินการได้ดี โดยได้ค้นพบผู้ป่วยรอบ 24 ชั่วโมง 52 ราย สะสม 193 ราย ซึ่งจุดเริ่มต้นของประจวบคีรีขันธ์มาจากผู้ไปสถานบันเทิง 1 คนจากคลิสตัลผับ จากนั้นมีอาการไปติดคนในครอบครัว โดยตอนมีอาการก็เดินทางไปจ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงถือเป็นเคสนำเข้า โดยเขาไปทำกิจกรรมคอนเสิร์ตกับเพื่อน 7 คน ซึ่งคนที่ไปด้วยกันติดเชื้อหมด โดยทางจังหวัดได้มีการสอบสวนโรคและติดตามคนทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง และจุดต่างๆที่ผู้ติดเชื้อไปได้ทำลายเชื้อทุกจุดในหัวหินเมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา ณ ขณะนี้จุดต่างๆในหัวหินจึงปลอดเชื้อแล้ว ซึ่งถือเป็นตัวอย่างจังหวัดที่ควบคุมได้ดี
“ช่วงนี้เหมือนคนไปสถานบันเทิง 1 คนไปอีกหลายที่ แต่เบื้องต้นไม่ค่อยบอกข้อมูลครบถ้วน ต้องใช้เวลาซักถามหลายวัน ทำให้การสอบสวนโรคเป็นไปอย่างล่าช้าและยากลำบาก จึงขอให้ร่วมมือร่วมใจกัน อย่าปกปิดข้อมูล เพราะความผิดมีแน่นอน จึงขอความร่วมมือดีกว่า อย่างไรก็ตาม สถานการณ์พบผุ้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระจายทั่วประเทศ และพบการระบาดในจังหวัดเป็นกลุ่มก้อนหลายจังหวัดที่เชื่อมโยงสถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะ และกิจกรรมเสี่ยงอื่นๆ จึงขอให้ช่วยกันลดความเสี่ยงต่อการระบาดในวงกว้าง โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ ลดกิจกรรม และนักศึกษาท่านใดไปเที่ยวสถานบันเทิง ขอให้สังเกตอาการ ป้องกันตัวเองให้มากที่สุด และงดกิจกรรมกับคนหมู่มาก” นพ.โอภาส กล่าว
- 15 views