สมาคมคราฟท์เบียร์ ร้อง สธ. ปลดล็อกนั่งดื่มในร้าน - ขายออนไลน์ เตรียมร้องกรมสรรพสามิต ขอคืนภาษี ชี้คราฟท์เบียร์เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนสูง เปรียบคล้ายนมพาสเจอร์ไรซ์ มีอายุเก็บรักษา ขายไม่ได้ก็ต้องเททิ้ง ด้าน สธ.สีพื้นที่สีเขียว สีขาวได้รับการผ่อนผันขายได้ แต่สีแดงยังห้าม เพราะโควิดยังระบาดอยู่
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 1 ก.พ. 64 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอาชิระวัสส์ วรรณศรีสวัสดิ์ นายกสมาคมคราฟท์เบียร์ พร้อมด้วยประชาชนจำนวนหนึ่งได้ได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เรื่อง ขอความกรุณาผ่อนปรนให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ โดยมีนพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข นพ.ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นผู้รับมอบ โดยในภายหลังทางสมาคมฯ ได้มีการเทเบียร์ลงถังขยะ เพื่อเป็นการแสดงสัญลักษณ์ด้วย
นายอาชิระวัสส์ กล่าวว่า หลัง ศบค.มีคำสั่งห้ามขายเครื่องดื่มแอลกฮอล์นั้นทำให้ผู้ประกอบการคราฟท์เบียร์ได้รับผลกระทบจำนวนมาก ทางสมาคมฯ มีการเดินทางไปร้องเรียนมาหลายที่แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง วันนี้เลยมาที่กระทรวงสาธารณสุข และจากนี้จะไปร้องเรียนที่กรมสรรพสามิตต่อไป เพื่อขอคืนภาษีด้วย ขอให้เปิดขายออนไลน์ได้ เพราะสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว ขอให้สามารถนั่งรับประทานในร้านได้ ซึ่งเป็นที่ที่สามารถตรวจสอบ คัดกรองได้ และขอให้มีการยึดมาตรการของศบค.ที่เคยกำหนดเอาไว้ในช่วงท้ายการระบาดของโรคโควิด-19 ในรอบแรก ซึ่งทางผู้ประกอบการรับได้และพร้อมที่จะปฏิบัติตาม
“คราฟท์เบียร์เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนสูง และมีระยะเวลาการเก็บรักษาถ้าไม่ให้ขายก็เสียได้ เหมือนกับนมพาสเจอร์ไรซ์ ที่มีอายุการเก็บรักษา ที่ผ่านมาเราต่างก็ตกเป็นแพะ เกิดอะไรขึ้นก็โทษแอลกอฮอล์ตลอด ทั้งที่ไม่เคยมีรายงานว่ามีการติดเชื้อจากการดื่มเบียร์ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลย มีแต่ประชาชนไปรวมกลุ่มกันเอง มั่วสุมกันเอง ดังนั้นจะดีกว่าหรือไม่ถ้าให้เปิดขายได้ในสถานที่ที่ถูกต้อง ที่สามารถคุมได้ ดีกว่าปล่อยให้ไปสังสรรค์กันเองตามโรงแรม สถานที่ส่วนบุคคล” นายอาชิระวัสส์ กล่าว
นพ.รุ่งเรือง กล่าวว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขดูแลประชาชนทุกคนอยู่แล้ว โดยเฉพาะในภาวะโรคระบาดเราต้องให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัย เรื่องสุขภาพของประชาชนในภาพรวม อย่างไรก็ตามเรารับรู้ถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ จึงรับเรื่องไว้แล้วนำเข้าหารือกันอยู่แล้ว แต่ก็ต้องเป็นเรื่องที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย ตอนนี้เราอยู่ในภาวะวิกฤติ ต้องช่วยกันเพื่อให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปให้ได้
ด้าน นพ.นิพนธ์ กล่าวว่า เรื่องการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น ในพื้นที่สีเขียว สีขาวก็ได้รับการผ่อนผันอยู่แล้ว แต่ในพื้นที่สีแดงยังห้าม เป็นไปตามมาตรการที่ออกโดยศบค. ก็ต้องอิงไว้เป็นหลัก ส่วนอะไรที่เป็นข้อห้ามตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การห้ามขายออนไลน์ อะไรต่างๆ เป็นคนละเรื่อง ก็ต้องคงไว้เป็นไปตามกฎหมายอยู่แล้ว เพราะการขายออนไลน์เป็นเรื่องยากที่จะควบคุมตรวจสอบเรื่องอายุผู้ซื้อ และช่วงเวลาจำหน่าย และจะเอาเรื่องเบียร์สด มาเทียบกับนมสดไม่ได้ เป็นคนละเรื่องกันเลย
ทั้งนี้ข้อเรียกร้องในเอกสารระบุว่า เนื่องด้วยคาสั่งของ ศบค. อนุญาตให้ลูกค้าสามารถรับประทานอาหารภายในร้านได้ถึงเวลา 23.00 น. แต่ยังไม่อนุญาตให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อบริโภคในร้านได้ ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจร้านคราฟท์เบียร์ ทำให้ร้านคราฟท์เบียร์ภายในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ไม่สามารถทาธุรกิจได้ตามปกติ รายได้ลดลงกว่า 90% เนื่องจากรายได้หลักของผู้ประกอบการร้านคราฟท์เบียร์มาจากการบริโภคภายในร้านเป็นหลัก จึงข้อเสนอดังนี้ 1. ผ่อนปรนให้สามารถขายแอลกอฮอล์เพื่อบริโภคในร้านค้าได้ โดยมีมาตรการคัดกรองอย่างเข้มข้นตาม คาแนะนาของกระทรวงสาธารณสุข 2. ผ่อนปรนการบังคับใช้กฎหมาย ห้ามเปลี่ยนแปลงบรรจุภัณฑ์ โดยอนุญาตให้ร้านค้าสามารถ จาหน่าย เบียร์สดลงในบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็ก เพื่อให้ลูกค้านากลับไปบริโภคที่บ้านได้
3. ชะลอการบังคับใช้กฎหมายห้ามซื้อขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ร้านค้า สามารถจำหน่ายสินค้าทางช่องทางออนไลน์ โดยยังบังคับให้ผู้ขายต้องตรวจสอบอายุของผู้ซื้อสินค้าให้ เป็นไปตามกฎหมาย 4. ผ่อนปรนให้ร้านค้าสามารถโพสรูปสินค้า และอธิบายสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทางสื่อโซเชียลมีเดียได้ 5. อนุญาตให้ผู้ประกอบการชะลอการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มและนาส่งประกันสังคม 6.อนุญาตให้ผู้นำเข้า สามารถแบ่งชำระภาษีสรรพาสามิตและภาษีนำเข้าเป็นงวดๆ เพื่อบรรเทาปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน
- 16 views