โควิด19 ติดเชื้อรายใหม่ 756 ราย สธ. เสนอที่ประชุม ศบค.ผ่อนคลายมาตรการ 61 จังหวัด

โควิด-19 ติดเชื้อรายใหม่ 756 ราย จากการคัดกรองเชิงรุก 724 ราย ยอดรวมสะสม 16,221 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ขณะที่ตัวเลขเดินทางกลับจากตปท.อยู่ในสถานกักกันรวมกว่าแสนราย เตรียมเสนอ 61 จังหวัดผ่อนคลายมาตรการที่ประชุม ศบค.ใหญ่ 29 ม.ค.64

เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ว่า ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกเกิน 101 ล้านราย ผู้เสียชีวิตสูงกว่า 2.1 ล้านคนสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ประเทศไทยวันนี้ 756 ราย ยืนยันสะสม 16,221 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้เสียชีวิตสะสม 76 คน โดยการระบาดรอบใหม่นับตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.63- 28 ม.ค.64 รวมสะสม 11,984 ราย มาจากการเฝ้าระวังและระบบการบริการ 22 ราย แต่การค้นหาเชิงรุกในชุมชนมากถึง 724 ราย ซึ่งเป็นไปตามแผนการที่เร่งระดมตรวจทั้งประเทศ โดยเฉพาะจ.สมุทรสาคร ส่วนผู้ที่เดินมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันตัว 10 ราย ส่วนผู้ที่ยังรักษาในรพ.มี 4,461 ราย โดยมีอาการหนัก10 ราย โดย 7 รายอยู่ในกทม. มีหายป่วยแล้ว 7,347 ราย

พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 756 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศไทย 22 ราย พบว่า 9 รายอยู่จ.สมุทรสาคร โดยกทม. มี 8 ราย นนทบุรี 1 ราย พระนครศรีอยุธยา 1 ราย สมุทรปราการ 3 ราย ส่วนการคัดกรองเชิงรุก 724 รายอยู่ในสมุทรสาครทั้งหมด อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มติดเชื้อจากต่างประเทศ 10 รายนั้น มาจากโปรตุเกส 1 ราย รัสเซีย 2 ราย อินโดนีเซีย 1 ราย กาตาร์ 1 ราย และสหรัฐ 5 ราย อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศรายงานยอดรวมที่มีเที่ยวบินนำคนไทยกลับบ้านตั้งแต่ 4 เม.ย.63-27 ม.ค.64 รวม 120,730 คน ยังไม่รวมทางบก ทางน้ำ ส่วนต่างชาติ 73,055 คนนับตัวเลขตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค.63 ที่อนุญาตให้เข้าประเทศไทย

“นอกจากนี้กระทรวงกลาโหม ยังรายงานตัวเลขสะสมผู้ที่ผ่านเข้ามาในประเทศได้เข้าไปยังสเตจควอรันทีนหรือ SQ นับตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.63 -27 ม.ค.64 รวมกับสถานกักกันทางเลือก ASQ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.63 ดังนั้น รวมทั้งหมดสะสม 186,115 ราย โดยจำนวนนี้กลับบ้านแล้วจำนวน 171,624 ราย ยังเหลือกักตัวอยู่ 14,491 ราย ส่วนตัวเลข LQ ของกระทรวงมหาดไทยกระจาย 76 จังหวัด 418 แห่ง รวม 49,621 ราย ที่จำนวนมากคือ ชลบุรี สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ทั้งหมดเจ้าหน้าที่ทำงานหนักทั้งดูแลคนเข้าประเทศทั้งทางอากาศ ทางน้ำ ทางบก และยังมีส่วนที่คนไทยออกนอกประเทศอีก อยากให้มั่นใจว่าภาครัฐดูแลเป็นไปตามมาตรฐาน” พญ.อภิสมัย กล่าว

ทั้งนี้ วันที่ 21-28 ม.ค. ใน 7 วันที่ผ่านมา พบว่าจังหวัดที่ไม่มีผู้ติดเชื้อเลยมี 14 จังหวัด(สีขาว) ส่วนจังหวัดที่ไม่มีผู้ติดเชื้อติดต่อกันเกิน 7 วันที่ผ่านมามีมากถึง 47 จังหวัด(สีเขียว) โดยรวม 61 จังหวัด เรียกว่ากลุ่มเซฟโซน ซึ่งตัวเลขนี้จะมีการนำเสนอ ศบค.ชุดใหญ่ในวันพรุ่งนี้(29 ม.ค.) ให้พิจารณาว่า เมื่อไม่มีผู้ติดเชื้อเกิน 7-14 วัน ควรได้รับการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ มากกว่าจังหวัดที่ยังเป็นสีส้ม สีแดง

เมื่อเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด 19 ในประเทศไทย ว่า ภาพรวมสถานการณ์ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในหลายจังหวัด โดยจังหวัดที่ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 7 วัน มี 47 จังหวัด และไม่มีการติดเชื้อรายใหม่เลยอีก 14 จังหวัด รวมทั้งหมด 61 จังหวัด ถือเป็นพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งข้อมูลนี้จะนำเสนอต่อที่ประชุม ศบค.ในวันที่ 29 มกราคม 2564 พิจารณาเรื่องการผ่อนปรนมาตรการ แต่อย่างไรก็ตามก็ยังต้องมีมาตรการเฝ้าระวังต่อเนื่อง โดยเฉพาะการติดตามผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจและปอดบวมที่รับการรักษาที่โรงพยาบาล สำหรับ กทม.ควบคุมการระบาดได้ดี แต่ยังมีบางกลุ่มก้อนที่พบผู้ป่วยประปรายยังต้องติดตามต่อเนื่อง  

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีประชาชนกังวลเกี่ยวกับการปกปิดไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อ โดยเฉพาะผู้ที่มีชื่อเสียง ดังนั้นเพื่อช่วยกันหยุดยั้งการแพร่เชื้อ ขอความร่วมมือผู้ติดเชื้อโควิด 19 ทุกราย อย่าปกปิดข้อมูลของตนเอง เนื่องจากมีผลต่อการควบคุมป้องกันโรค สร้างความกังวลและความเสี่ยงต่อบุคคลใกล้ชิด ขอให้มั่นใจว่าข้อมูลที่ให้กับเจ้าหน้าที่สอบสวนโรค จะเปิดเผยเฉพาะในส่วนที่มีผลกระทบต่อบุคคลรอบข้าง และที่มีผลกับการควบคุมป้องกันโรคเท่านั้น โดยผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่ปกปิดข้อมูลจะมีความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548  และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเจ้าพนักงานโรคติดต่อในพื้นที่สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้