ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ กรุงเทพฯทรงตัว แต่ต้องค้นเชิงรุก โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งตะวันตก ย้ำต้องระวังมากขึ้นในสถานที่เสี่ยง 3 แห่ง

เมื่อเวลา 15.00 น.  วันที่ 18 ม.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในการแถลงสถานการณ์โควิด-19 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า  ผู้ติดเชื้อในการระบาดระลอกใหม่เป็น คนไทย 49.88 % เมียนมา 45.11 %  กัมพูชา 1.73 % และอื่นๆ 3.28 % ทั้งนี้  4 กลุ่มก้อนสำคัญที่ระบาดในระลอกจากการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ติดเชื้อ พบว่า 1.จังหวัดอื่นๆที่เชื่อมโยงกับตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร จำนวนผู้ป่วย 568 ราย รวม 43 จังหวัด  2.เชื่อมโยงบ่อนการพนันในภาคตะวันออก 1,491 ราย 13 จังหวัด 3.เชื่อมโยงกับสถานบันเทิง กรุงเทพฯ 283 ราย  10 จังหวัด และสนามชนไก่ จ.อ่างทอง 148 ราย  7 จังหวัด 

“สำหรับกรณีพื้นที่กรุงเทพฯ ขณะนี้ทรงตัวและลดระดับลง แต่จะต้องมีการค้นเชิงรุกในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งตะวันตกของกทม. เน้นการกำกับติดตามการกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงระหว่างรอผลตรวจหาเชื้อจนครบ 14 วัน”นพ.โอภาสกล่าว 

นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า  สิ่งที่จะต้องระวังมากขึ้น ในสถานที่เสี่ยง 3 แห่งที่ใกล้ตัว คือ 1.ในครอบครัว ซึ่งจะต้องระมัดระวังกลุ่มเสี่ยงที่เป็นผู้สูงอายุ และเด็ก เพราะพบกลุ่มก้อนการติดเชื้อในครอบครัว(Family Cluster) จึงจะต้องลดการแพร่กระจายเชื่อให้ผู้สูงอายุที่มีโอกาสติดเชื้อแล้วอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต ดังนั้น ลูกหลานที่ไปเยี่ยมผู้สูงอายุหรืออยู่ร่วมบ้าน จะต้องคงมาตรการป้องกันการติดเชื้อส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด เนื่องจากผู้สูงอายุไม่ได้ไปสถานบันเทิง แต่โอกาสเสี่ยงจะติดจากลูกหลานที่ไปเที่ยว ขอให้เข้มมาตรการกันอีกระยะหนึ่ง 2.ร้านอาหาร/สถามนที่รับประทานอาหาร และ3.สถานที่ทำงาน  ซึ่งความเสี่ยงจะอยู่ที่การใกล้ชิดกันและไม่ได้ใส่หน้ากาก โดยเฉพาะการรับประทานอาหารร่วมกันในที่ทำงาน เพราะเป็นช่วงเวลาที่ไม่ไดใส่หน้ากาก

นพ.โอภาส กล่าวด้วยว่า สำหรับการแจ้งเตือนแอปหมอชนะตั้งแต่วันที่ 9-16 ม.ค.2564 รวม 8 วัน มีการแจ้งเตือนสะสมแล้ว  4,232  ราย โดยแจ้งในวันที่ 16 ม.ค.2564 มากที่สุด 3,583 รายในพื้นที่จ.ตากและฉะเชิงเทรา  โดยการแจ้งเตือนจะมีจำนวน  3 ครั้ง  ช่วงห่างครั้งละ 30 นาที  ซึ่งจะเห็นว่าจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้เร็วขึ้น หากไม่มีแอปหมอชนะกว่าที่จะเจ้าหน้าที่จะแจ้งเตืนตอทั้ง 3 กว่ารายได้ทั้งหมดต้องใช้เวลานานมาก