ผลตรวจเชื้อโควิด “อนุทิน” เป็นลบ แต่เข้มมาตรการขอกักตัว 14 วัน

“สาธิต ปิตุเตชะ” แถลงกรณี อนุทิน ชาญวีรกูล กักตัวเอง 14 วัน หลังผู้ว่าฯสมุทรสาครติดโควิด-19 เบื้องต้นผลตรวจเชื้อรองนายกฯ เป็นลบ แต่เข้มมาตรการกักตัว 14 วันและรอตรวจเชื้อซ้ำอีกวันที่ 3 หลังจากนี้ ขณะที่อธิบดีกรมต่างๆ ที่ลงพื้นที่ตรวจงานสมุทรสาคร ติดตามอาการ รอผลตรวจยืนยันอีกครั้ง

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2563  ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) แถลงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กักตัวเอง ภายหลังกรณีผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ติดโรคโควิด-19 ว่า ขณะนี้ท่านอนุทิน ได้ตรวจหาเชื้อเบื้องต้นเป็นลบ แต่ด้วยความรับผิดชอบและตามมาตรการกรมควบคุมโรค และเพื่อความปลอดภัยในการแพร่ระบาดเชื้อ ท่านอนุทิน ได้กักตัวเอง 14 วัน เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ และจะตรวจอีกครั้งหลังจากนี้ไปอีก 3 วัน เพื่อยืนยันเชื้อเป็นไปตามหลักทางการวิชาการว่า เชื้อจะฟักตัว 5-7 วัน โดยจะตรวจซ้ำอีกครั้ง แต่ช่วงเวลานี้จะกักตัวจนครบ 14 วัน และทำงานนิวนอร์มอล สั่งงานผ่านไลน์ ประชุมผ่านโซเชียลมีเดีย จึงขอยืนยันว่า ท่านตัดสินใจกักตัวเอง และจะมีไทม์ไลน์ของตัวท่านออกมา

นพ.โอกาส การ์ยกวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ผลแล็บยืนยันจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพิ่งออกมาว่า ท่านอนุทิน ไม่พบเชื้อ และต้องขอให้เป็นกำลังใจกับท่านผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เพราะท่านตั้งใจทำงาน ทุ่มทำทำงานลงพื้นที่ตลอด แต่ด้วยท่านอายุมาก มีโรคประจำตัวด้วย ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงมีภาวะแทรกซ้อนได้ ทางสธ.จะดูแลท่านอย่างดี ส่วนท่านอนุทิน ยืนยันผลตรวจครั้งแรกไม่พบเชื้อ อย่างไรก็ตาม สำหรับนิยามของผู้เสี่ยงสูง คือ 1. มีการไอจามต่อกัน ไม่ใส่หน้ากากอนามัยและหน้ากากผ้า 2.มีการพูดคุยใกล้ชิดไม่เกิน 1 เมตรโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย และ 3. อยู่ในสถานที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เช่น รถตู้ หรือห้องประชุม ในระยะ 5 เมตรเกิน 15 นาที ยิ่งไม่ใส่หน้ากากอนามัยความเสี่ยงก็จะเพิ่มขึ้น อันนี้คือนิยามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับผู้ติดเชื้อ โดยสิ่งที่ต้องดำเนินการสำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ต้องมีการกักตัวและตรวจเชื้อทางห้องปฏิบัติการ

“อย่างกรณีท่านอนุทิน มีการตรวจเชื้อเบื้องต้นเป็นลบ แต่ไม่ได้หมายความว่า ไม่พบเชื้อจะไม่ดำเนินการอะไร เพราะยังต้องกักตัว 14 วัน และตรวจทางห้องปฏิบัติการเป็นระยะอีก ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดี ที่ท่านไม่ปกปิดข้อมูล แจ้งอย่างเปิดเผย และจะมีไทม์ไลน์ให้เห็นว่าเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนผู้บริหารท่านอื่นก็เช่นเดียวกัน จะมีการตรวจเชื้อทางห้องปฏิบัติการเช่นกัน และจะแยกว่าใครเสี่ยงสูง เสี่ยงต่ำ” นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า

เมื่อถามว่านอกจากท่านรองนายกฯ มีใครอีก นพ.โอภาส กล่าวว่า กำลังดำเนินการแยกอยู่ และรอผลทางห้องปฏิบัติการอยู่ แต่จะมีการกักตัวอีกครั้ง ซึ่งตนเห็นว่า ผู้บริหารมีการสวมหน้ากากอนามัยทุกคน และยังเป็นหน้ากาก N95 ด้วยซ้ำ

เมื่อถามว่ากรณีที่เกิดขึ้นผู้ว่าฯ สมุทรสาครติดเชื้อจากจุดไหน นพ.โอภาส กล่าวว่า ทางจังหวัดกำลังดำเนินการ แต่จากประวัติศาสตร์ เมื่อเจอผู้ป่วย 1 คน คนที่เสี่ยงสูงคือ คนในครอบครัวมีโอกาสติดเชื้อ 40-50% ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงมีโอกาสติดเชื้อ 10 % ส่วนกลุ่มอื่นโอกาสติดเชื้อต่ำกว่า 1%

ผู้สื่อข่าวถามว่าเกิดความกังวลหลังจากเมื่อวานมีภาพท่านอนุทิน และผู้บริหารสธ. รวมทั้งประชาชนที่ใกล้ชิด สื่อมวลชนอยู่ในงานแถลงกินอาหารทะเลได้ ต้องกักตัวทั้งหมดหรือไม่ นพ.โอภาส กล่าวว่า คนที่สัมผัสทั้งหมดต้องเฝ้าระวัง 14 วัน และต้องตรวจเชื้อเป็นระยะๆ แต่ก็ต้องประเมินว่าเสี่ยงสูง หรือเสี่ยงต่ำ ซึ่งมีนิยามที่แจ้งมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งแจ้ง และยืนยันว่าทำตามหลักฐานวิชาการ โดยท่านรองนายกฯ ได้ดำเนินการตามมาตรการทั้งหมด

“ส่วนผมก็ตรวจเชื้อกำลังรอลุ้นผล อย่างไรก็ตาม ส่วนการจะกักตัว 14 วันหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับเสี่ยงสูงเสี่ยงต่ำ แต่ตอนนี้คือ ท่านที่เกี่ยวข้องควรเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และหากมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ ส่วนอธิบดีจะต้องกักตัวก 14 วันหรือไม่ ก็ต้องมาประเมินว่า เสี่ยงสูงหรือเสี่ยงต่ำ ตามนิยามผู้สัมผัสเสี่ยงสูง แต่หากเสี่ยงต่ำก็ไม่ต้องกัก 14 วันแต่ต้องเว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ สวมหน้ากากอนามัย” นพ.โอภาส กล่าว

นายสาธิต กล่าวว่า ขอย้ำว่า ทุกคนป้องกันตัวเองตามมาตรการกรมควบคุมโรค และหลีกเลี่ยงอยู่ในที่ชุมชน ซึ่งสถานการณ์แบบนี้ ทางกระทรวงฯทำงานหนัก อยู่หน้างาน หากมีผู้บริหารบางคนติดเชื้อจากการทำงาน เราก็มีแผนเตรียมรองอธิบดีทำงานต่อ ไม่ต้องกังวล ที่สำคัญขอเชิญชวนรณรงค์ในโซเชียลฯ Save คนทำงานสู้โควิด ส่วนตนไม่มีความเสี่ยง ไม่ได้ไปพื้นที่สมุทรสาคร