ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

โฆษก ศบค. เผยผลตรวจโควิดแรงงานต่างด้าวพบเชื้อเพิ่มอีก 360 ราย เป็นเคสในประเทศ 14 ราย เชื่อมโยงตลาดกลางกุ้ง 12 ราย ขณะที่นายกฯ มอบกระทรวงสาธารณสุข จัดเตรียมหลักเกณฑ์การสั่งล็อกดาวน์ จังหวัด หรือล็อกดาวน์ประเทศ รองรับหากมีการระบาดในหลายจังหวัดมากขึ้น

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่า วันนี้ (21 ธ.ค.) มีผู้ติดเชื้อรายใหมิ่มขึ้เน 382 ราย ติดในประเทศ 14 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในแรงงานต่างด้าว (คัดกรองเชิงรุก) 360 ราย จากเมื่อวานตรวจเจอ 516 ราย และในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 8 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 5,289 ราย ยอดหายป่วยสะสม 4,053 ราย มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 1,176 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 60 ราย อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ป่วยในประเทศ 14 ราย( ผู้ป่วยรายที่ 9-22 ) โดยพบว่า รายที่ 10 -21 มีการเชื่อมโยงกับตลาดกลางกุ้ง แต่รายที่ 9 และรายที่ 22 อยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นเคสจ.พระนครศรีอยุธยาและแม่สอด

“วันนี้ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขได้เข้าพบท่านนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านนายกฯ ได้เน้นย้ำในเรื่องของมาตรการควบคุมสอบสวนโรคและแก้ปัญหาการแพร่ระบาดมากก่อนยังไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องของการดำเนินคดีอะไรใดๆ ดังนั้นขอให้พี่น้องเมียนมามีความมั่นใจ พร้อมกันนี้ยังมอบให้ กระทรวงสาธารณสุข จัดเตรียมหลักเกณฑ์การสั่งล็อกดาวน์ จังหวัด หรือล็อกดาวน์ประเทศ รองรับกรณีหากมีการระบาดในหลายจังหวัดมากขึ้น อย่างไรก็ตามขอย้ำว่ายังไม่ได้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเพียงแต่ให้มีการเตรียมหลักเกณฑ์เอาไว้ว่าจะต้องใช้อะไรเป็นตัวกำหนด ถึงขั้นนั้นจะได้ไม่เป็นการสั่งการโดยพละการจากคนใดคนหนึ่ง” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

ทั้งนี้ มาตรการที่ดำเนินการในพื้นที่ไข่แดงที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งพบการติดเชื้อ 42% นั้นจะมีการตั้งรพ.สนามประมาณ 100 เตียงใกล้กับพื้นที่กับบริเวณหอพัก หากมีการเจ็บป่วยจะดูแลตรงนี้ไม่ต้องออกไปนอกพื้นที่ ทั้งนี้ระบบสาธารณสุขจะจัดการดูแลตั้งแต่ที่มีอาการเบาไปหาหนัก ไม่เอาผู้ป่วยออกมาข้างนอก ส่วนคนที่อยู่ข้างนอกก็ไม่ควรเข้าไป มีเพียงเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่มีความรู้และมีการสวมอุปกรณ์ป้องกันอย่างเข้มข้นเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้อาจจะต้องใช้เวลาพอสมควร ตัวเลข 14 วันที่เคยนับกันนั้นอาจจะไม่สามารถใช้ได้อีก อาจจะต้องบวกเพิ่มไปอีกเพราะอาจจะมีการติดเชื้อเป็นวงรอบๆ ออกไปอย่างไรก็ตามจะอยู่ในขอบเขตที่จำกัดพื้นที่เอาไว้

ส่วนกรณีที่มีผู้ออกไปข้างนอกแล้วในก่อนหน้านี้ จากตัวเลขที่มีข้อมูลลูกค้าประจำของตลาดกลางกุ้ง ที่ติดตามได้ประมาณ 1,000 กว่าคน ส่วนคนอื่นๆ ที่เป็นลูกค้าประจำนั้น สามารถแสดงตัวได้เลย อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก อาจจะมีข่าวปรากฏผู้ติดเชื้อตามที่ต่างๆ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้เพราะลูกค้าของตลาดกลางกุ้งอาจจะยังไม่รู้ตัวตั้งแต่แรก จึงมีการเดินทางไปตามที่ต่างๆ จึงอาจจะพบผู้ติดเชื้อขึ้นได้ ดังนั้นขอให้สวมหน้ากากอนามัยป้องกันเอาไว้ก่อน ให้ครอบคลุมกันทั้งประเทศ

นอกจากนี้ จะเน้นย้ำเรื่องรถขนสินค้า และคนขับรถขนส่งสินค้าในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยใช้มาตรการเช่นเดียวกับจังหวัดขอบชายแดน จะต้องตรวจสอบทั้งรถ และคนขับอย่างเข้มข้น และขอความร่วมมือบริษัทขนส่งทั้งหลายดูแลคนขับและกระบวนการขนส่งให้ดีทุกๆ ขั้นตอนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่จะนำสินค้าออกมาจากจังหวัดนี้เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตประจำวันกันดีที่สุดตอนนี้เทศกาลปีใหม่จะมีการบริโภคอาหารเพิ่มหรือไม่เพิ่มขึ้นก็ตามแต่ก็ต้องดูแลอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามอธิบดีกรมควบคุมโรคระบุว่าโรคไม่ติดต่อทางอาหาร แต่ขอให้ปรุงสุก ร้อน สะอาด

“มาตรการทั้งหลายอยากให้สถานศึกษาดูแลเด็กๆ รวมถึงการชุมนุมต่างๆ ถ้าจะต้องมีในช่วงนี้ขอฝากเตือนเอาไว้ด้วยว่าสถานการณ์อย่างนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะให้เกิดการรวมตัวรวม และในพื้นที่ที่เชื่อมโยงกับสมุทรสาครหรือพื้นที่สงสัยอื่นๆ อาจจะต้องมีการกลับมาใช้มาตรการการทำงานที่บ้านอีกครั้ง แต่สิ่งสำคัญคืออยากให้สวมหน้ากากอนามัย 100% หากเจอกันเป็นเพื่อน หรือคนแปลกหน้าที่ไม่สวมก็สามารถตักเตือนกันได้ เพราะแสดงถึงความห่วงใย ไม่ใช่การต่อว่า” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว สำหรับสถานประกอบการในจังหวัดต่างๆ ที่มีลูกจ้างต่างด้าวเยอะนั้น สามารถจัดหาแรบปิดเทสต์ที่ได้รับการรับรองเพื่อตรวจเบื้องต้นในกลุ่มแรงงานได้เลย แม้จะไม่ได้เป็นการยืนยันผลได้ 100% แต่เป็นสร้างความมั่นใจได้ระดับหนึ่ง และต้องไม่ลืมเรื่องการสแกนแอพลลิเคชั่นไทยชน