กระทรวงสาธารณสุข เผยความต้องการ N95 สำหรับบุคลากรที่ทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วยกับโรคโควิด-19 หรือต้องทำหัตถการ 17,000 ชิ้นต่อวัน ขอความร่วมมือประชาชนใช้หน้ากากผ้า ส่วน N95 ขอให้บุคลากรการแพทย์ใช้ ระบุหากอนาคตป่วยมากขึ้นจนทำให้ขาดแคลน เล็งหาวิธีนำหน้ากาก N95 มาใช้ซ้ำ หลังพบ ผลวิจัยคณะแพทย์รามาธิบดี ฉายรังสีฆ่าเชื้อโคโรนาไวรัสในหน้ากากอนามัยได้
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่า ทั่วโลกมีรายงานผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ใน 198 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 2 เรือสำราญ พบผู้ป่วย 768,466 ราย เสียชีวิต 36,914 ราย ส่งผลให้ความต้องการใช้ยา อุปกรณ์ เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ในการดูแลรักษาผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะหน้ากาก N95 และชุดป้องกันร่างกาย (PPE.) ซึ่งผู้ผลิตรายใหญ่อยู่ในต่างประเทศ ไทยต้องสั่งซื้อเข้ามา เมื่อเกิดการระบาดของโรคการสั่งซื้อทำได้ยากขึ้น ต้องใช้ระยะเวลานานขึ้นกว่าเดิม
ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 28 มีนาคม 2563 กระทรวงสาธารณสุข ได้ส่งหน้ากาก N 95 ให้โรงพยาบาลทุกสังกัดแล้ว 183,910 ชิ้น ยังมีสำรองที่โรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กว่า 200,000 ชิ้น ได้มีแผนการจัดหาเพิ่มอีกประมาณ 700,000 ชิ้น โดยสั่งซื้อจากบริษัท 3 M ประเทศอเมริกา 2 แสนชิ้น บริษัท สยามโคเค็น จำกัด เดือนละ 1 แสนชิ้น และจะนำเข้าจากประเทศจีน โดย อภ. อีก 4 แสนชิ้น ทั้งนี้ จากการคาดประมาณหากมีผู้ป่วย 10,000 ราย ต้องใช้หน้ากาก N95 ประมาณ 17,000 ชิ้นต่อวัน สำหรับบุคลากรที่ทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วยกับโรคโควิด-19 หรือต้องทำหัตถการ จึงขอความร่วมมือประชาชนใช้หน้ากากผ้า ประชาชนที่มีจิตศรัทธาสามารถบริจาคได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือกระทรวงสาธารณสุข โทร 0 2590 2078-9
ในส่วนอุปกรณ์ป้องกันและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ได้รับจากรัฐบาลจีน ได้กระจายให้เขตสุขภาพแล้ว ประกอบด้วย หน้ากากอนามัย 100,000 ชิ้น หน้ากาก N95 จำนวน 10,000 ชิ้น ชุด PPE. 2,000 ชิ้น และที่ได้รับบริจาคจากมูลนิธิแจ็ค หม่า และมูลนิธิอาลีบาบา ประกอบด้วย หน้ากากอนามัย (protective mask, face shield) กว่า 550,000 ชิ้น และชุดป้องกันตนเอง (protective suit) จำนวน 50,000 ชุด ขณะนี้ ศูนย์ปฏิบัติการกระจายเวชภัณฑ์ในภาวะโควิด-19 ได้จัดสรรให้สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลใน 3 จังหวัดชายแดนใต้แล้ว
นพ.สุขุม กล่าวต่อว่า หน้ากาก N 95 และหน้ากากอนามัย เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการป้องกันการติดเชื้อที่แพร่ผ่านละอองฝอยหรืออากาศ ปกติไม่แนะนำให้ใช้ซ้ำ แต่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดการขาดแคลน จึงได้หาวิธีในการนำหน้ากาก N 95 และหน้ากากอนามัยกลับมาใช้ซ้ำ โดยผลการวิจัยของคณะแพทยศาสตร์ รามาธิบดี ร่วมกับ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกและเครื่องมือแพทย์ และ BRIA LAB ได้ศึกษาวิจัยพบว่าการฉายรังสี UV-C สามารถกำจัดเชื้อโคโรนาไวรัสได้
ทั้งนี้ กรมการแพทย์ ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากกรมวิชาการ สมาคมวิชาชีพ โรงเรียนแพทย์ต่างๆ ปรับแนวทางทางการรักษาผู้ติดเชื้อล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2563 ดังนี้ 1.ผู้ติดเชื้อทุกราย ไม่ว่ามีหรือไม่มีอาการต้องอยู่โรงพยาบาลในช่วงแรก 2-7 วัน เพื่อสังเกตอาการหรือรับการรักษา เมื่ออาการปกติแล้วอาจดูแลและสังเกตอาการต่อในโรงพยาบาล หรือสถานที่ที่จัดไว้ให้จนครบ 14 วัน 2.เมื่อหายดีแล้วและครบ 14 วัน สามารถกลับบ้านได้ และไปทำงานได้ แต่ต้องใส่หน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างจากผู้อื่น แยกรับประทานอาหารและของใช้กับผู้อื่นจนครบ 1 เดือน
- 84 views