สุขภาวะคนเมือง เรื่องที่คนเมืองควรรู้

ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. จัดกิจกรรมพิเศษเสวนา “สุขภาวะคนเมือง เรื่องที่คนเมืองควรรู้” เพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาสุขภาวะคนเมืองให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองได้มีความรู้ ความเข้าใจ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปสู่สุขภาวะที่ดีได้ด้วยตนเอง

นพ.ประเวช ตันติพิวัฒนสกุล

ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้จัดกิจกรรมพิเศษเสวนา “สุขภาวะคนเมือง เรื่องที่คนเมืองควรรู้” โดย นพ.ประเวช ตันติพิวัฒนสกุล ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมสุขภาพจิตเพื่อสุขภาวะสังคมไทย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ผ่านการอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน โรงเรียน วิทยาลัย มหาวิยาลัย และประชาชนที่สนใจ

นพ.ประเวช กล่าวว่า ปัจจัยต่างๆ ที่ลดทอนความสุขของวิถีชีวิตคนเมือง ได้แก่ วิถีชีวิตที่เร่งรีบ กดดัน เคร่งเครียด หมดเวลาไปกับการเดินทางมากเกินไป กินอาหารสำเร็จรูป อยู่หน้าจอนาน นอนดึก จำนวนชั่วโมงในการนอนไม่พอ บริโภคน้ำตาลในปริมาณมากเกิน ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย ไม่มีเวลาอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ไม่มีเวลาให้กับคนในบ้าน และที่สำคัญคือ การคิดเปรียบเทียบ เราใช้เวลาอยู่กับโซเชียลมีเดียมาก ดูภาพชีวิตของคนอื่นๆ ที่นำช่วงเวลาที่ดีที่สุดมาแสดง ดูแล้วก็เกิดความรู้สึกว่าชีวิตตัวเองไม่ดีพอ ไม่เก่ง ยังมีไม่พอ ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต การคิดเปรียบเทียบเช่นนี้ทำให้ความสุขลดน้อยลง

งานวิจัยเรื่องความสุขที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติชิ้นหนึ่ง มีข้อสรุปว่า เราสามารถกำหนดระดับความสุขของตัวเองได้ราว 70-80% จากการฝึกวิธีคิดและเลือกทำกิจกรรมดีๆ ที่เหลืออีก 20-30% คือผลของสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกตัวเรา และมักเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้เราจึงเลือกความสุขทุกข์ของตัวเองได้มากกว่าที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ

เคล็ดลับ "7 วิธีสร้างสุขสไตล์คนเมือง" มี 7 ข้อ ได้แก่

1. ลดเวลาการอยู่หน้าจอ (โทรศัพท์มือถือ แทปเล็ต ทีวี) ลงครึ่งหนึ่ง

2. จัดเวลาและมอบความใส่ใจให้กับสมาชิกในครอบครัว ทำกิจกรรมความสุขร่วมกัน เช่น ทำอาหารเพื่อสุขภาพ เที่ยวในที่ธรรมชาติ พูดคุย ทำกิจกรรมสนุกร่วมกัน ครอบครัวเป็นแหล่งความสุขที่สำคัญที่สุดของคนเรา

3. จัดเวลาให้กับตัวเองเพื่อทำในสิ่งที่รัก ทำในสิ่งที่ทำให้มีความสุข และที่จะพัฒนาตัวเอง เช่น จัดเวลาทำอาหารกินเองในมื้อสำคัญ อ่านหนังสือให้ข้อคิดดีๆ ทำงานอดิเรก จัดเวลาอยู่กับธรรมชาติ

4. เข้านอนให้เร็วขึ้น เวลาที่เรานอนเพียงพอ สมองจะทำงานได้ดีขึ้น เราจะคิดได้ดีขึ้น ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังควบคุมอารมณ์ ลดความเครียด ควบคุมตัวเองให้ทำสิ่งดีๆ ให้กับตัวเองได้มากขึ้น

5. ออกกำลังกาย ช่วยเพิ่มศักยภาพสมอง คลายเครียด เพิ่มความเชื่อมั่นในตัวเอง

6. ฝึกทักษะผ่อนคลาย ช่วยสร้างความสุขสงบในชีวิตประจำวัน

และ 7. ฝึกทักษะทางความคิด เช่น การมองโลกแง่ดี การคิดแก้ปัญหาเชิงรุก ซึ่งทักษะเหล่านี้เป็นสิ่งที่ฝึกฝนได้ ช่วยให้เราจัดการชีวิตได้ดียิ่งขึ้น มีความสุขมากขึ้น”