นสพ.ประชาชาติธุรกิจ : หมอบุญพลิกกลยุทธ์สร้างรายได้ เพิ่มกำไร ขยายฐานลูกค้า ผุด "ศูนย์เฉพาะทางโรคกระดูก" สแตนด์อะโลนบุกใจกลางเมือง เล็งลงทุนเมดิคอลคอมเพล็กซ์ ชูแนวคิดศูนย์การค้าการแพทย์ ผนึกพันธมิตรโรงพยาบาลเปิดศูนย์หัวใจ ด้าน รพ.วัฒโนสถเดินหน้าลงทุนเครื่องมือแพทย์ ส่งหน่วยรถเคลื่อนที่ขยายฐานลูกค้าองค์กร ย้ำจุดแข็งโรคมะเร็ง ด้านเครือกรุงเทพ ซุ่มสร้างศูนย์เฉพาะทางสมอง กระดูก เจาะเมดิคอลทัวริสต์
นพ.บุญ วนาสิน
นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริหารกลุ่มโรงพยาบาลธนบุรี เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สนใจลงทุนศูนย์เฉพาะทาง เพราะมองเห็นโอกาสสร้างรายได้และกำไร ขณะที่ธุรกิจโรงพยาบาลใช้งบฯ ลงทุนสูงและระยะ เวลาก่อสร้างนาน รวมถึงพฤติกรรมของผู้ป่วยต้องการปรึกษาแพทย์เฉพาะทางมากขึ้น อย่างไรก็ตามโจทย์หลักคือบุคลากรเฉพาะทางหายาก ทำเลก็เป็นอีกยุทธศาสตร์สำคัญ โดยเน้นใจกลางเมือง
เบื้องต้นโฟกัสศูนย์กระดูกและศูนย์หัวใจที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก แบ่งเป็น 2 รูปแบบการลงทุน คือสแตนด์อะโลน และเข้าไปเปิดศูนย์เฉพาะทางในโรงพยาบาลพันธมิตรและโรงพยาบาลที่รับบริหาร โดยศูนย์กระดูกครบวงจรนำร่อง 1 แห่ง ซึ่งแผนเดิมจะเปิดเป็นสแตนด์อะโลนย่านพญาไท ใช้งบฯ ลงทุน 1,500 ล้านบาท ล่าสุดได้ปรับแผนใหม่อยู่ระหว่างหาทำเลที่มีพื้นที่ใหญ่ขึ้นหรือมากกว่า 30,000 ตร.ม.
ส่วนศูนย์หัวใจที่ผ่านมาได้เข้าไปเปิดให้บริการอยู่ในโรงพยาบาลพันธมิตร คือโรงพยาบาลภัทรธนบุรี และบางพลี ล่าสุดกำลังจะเปิดเพิ่มที่โรงพยาบาลองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทยา นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างเจรจาที่ดิน เพื่อสร้างเมดิคอลคอมเพล็กซ์ ที่มีแนวคิดเป็นศูนย์การค้าให้บริการครบวงจร ทั้งร้านยา เครื่องมือแพทย์ สถานพักฟื้นและกายภาพ
"โรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเริ่มอิ่มตัว จำนวนเตียงเริ่มล้นและรายได้ไม่สูงเท่าศูนย์เฉพาะทาง บางแผนกขาดทุน แต่จำเป็นต้องมีให้บริการ การก่อสร้างใช้งบฯ ลงทุนสูงเฉลี่ย 10 ล้านบาทต่อเตียง นาน 2 ปี เริ่มมีกำไรใช้เวลา 3-5 ปี เทียบกับลงทุน ศูนย์เฉพาะทางใช้งบฯ ต่ำกว่าและเริ่มเห็นกำไรเร็วกว่าหรือประมาณ 1-2 ปี"
ด้านโรงพยาบาลวัฒโนสถ โรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทางโรคมะเร็งในเครือกรุงเทพดุสิตเวชการมุ่งสร้างแบรนด์อะแวร์เนส มากขึ้น ล่าสุดเพิ่งนำหน่วยรถตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องดิจิทัลแมมโมแกรมและอัลตราซาวนด์โรดโชว์ให้บริการตรวจป้องกันมะเร็งเต้านมในเขตกรุงเทพฯ
นพ.ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวัฒโนสถ กล่าวว่า ปัจจุบันมีรถตรวจคัดกรองฯ 1 คัน เพิ่งซื้อมาในมูลค่า 30 ล้านบาท โดยได้จัดกิจกรรมโรดโชว์ตรวจสุขภาพ เพื่อสร้างแบรนด์อะแวร์เนส รวมทั้งขยายฐานลูกค้า องค์กรและบริษัทต่างๆ ในการให้บริการตรวจถึงที่ ทั้งนี้มีแผนลงทุนต่อเนื่อง โดยปลายปีจะนำเข้าเครื่องฉายแสง และก่อนหน้านี้เพิ่งเปิดตัวเครื่องเพทซีที สแกนรุ่นใหม่ 2 เครื่อง เพื่อรองรับผู้ใช้บริการ ซึ่ง 2-3 ปีที่ผ่านมาสัดส่วนลูกค้าต่างชาติอยู่ที่ 50% เพิ่มขึ้นจากที่มี 20% โดย มุ่งขยายฐานลูกค้ากลุ่มเอเชีย-แปซิฟิกมากขึ้น ปัจจุบันส่วนใหญ่มาจากเมียนมาและยูเออี
ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มกรุงเทพดุสิตเวชการ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อยู่ระหว่างก่อสร้าง BDMS center of Excellence Network (ซีโออี) เริ่มมาตั้งแต่ปลายปี 2558 เพื่อขยายฐานลูกค้าเมดิคอลทัวริสต์ จากเอเชีย-แปซิฟิก และร่วมมือด้านเทคโนโลยีขั้นสูงและบุคลากรกับพันธมิตรในอเมริกา เยอรมนี และญี่ปุ่น เพิ่มศักยภาพเทียบเท่าโรงพยาบาลในสหรัฐ ซึ่งซีโออีจะเป็นฮับและมีเครือข่ายในต่างจังหวัด อาทิ เชียงใหม่ อุดรธานี พัทยา ภูเก็ต ภายในมีบริการศูนย์สมอง กระดูก ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และกายภาพ ขนาด 220 เตียง
ทั้งนี้ จากแนวโน้มการซื้อกิจการและการแข่งขันสูงขึ้นจากผู้เล่นรายใหญ่ๆ ทำให้ผู้ประกอบการต่างมองว่า โรงพยาบาลขนาดเล็กหรือมีสาขาแห่งเดียวจะอยู่ยาก ขณะที่โรงพยาบาลเฉพาะทางจะยังคงแข่งขันได้ ซึ่งปัจจุบันมีหลายรูปแบบ ทั้งโรงพยาบาลเฉพาะทางตา โรงพยาบาลผิวหนัง
ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 18 - 20 เม.ย. 2559
- 72 views