'หมอบุญ' ปั้นธุรกิจศูนย์พักฟื้น ลุยรับจ้างบริหาร 'รพ.ไทย-เทศ'

นสพ.ประชาชาติธุรกิจ : "หมอบุญ" กางแผนดันรายได้กลุ่มธนบุรีเฮลท์แคร์ เพิ่มดีกรีโฟกัสธุรกิจรับจ้างบริหารโรงพยาบาลทั้งในประเทศ-จีน-เมียนมา เผยผนึกทุนท้องถิ่น เปิดโรงพยาบาลขนาด 200 เตียงมูลค่า 4 พันล้าน ปักธงย่างกุ้งผุดบริการโมเดลใหม่โรงพยาบาลเฉพาะทาง ถูกลง 30%

นพ.บุญ วนาสิน

นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า แผนธุรกิจปีนี้ กลุ่มธนบุรีจะหันมาเน้นธุรกิจรับจ้างบริหารโรงพยาบาลมากขึ้น รวมทั้งลงทุนโรงพยาบาลเฉพาะทาง ซึ่งใช้งบฯลงทุนน้อย แต่ให้ผลตอบแทนดี เมื่อเทียบกับโรงพยาบาลทั่วไปในภาพรวม ค่อนข้างมีจำนวนมากเกินความต้องการ โดยพิจารณาจากอัตราครองเตียงเฉลี่ย 60% และการสร้างโรงพยาบาลใหม่ใช้เวลาคืนทุนนานถึง 7 ปี ขณะเดียวกันก็มีแผนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯไตรมาส 2 เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการและใช้ลงทุนโครงการในอนาคต เพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการผู้ป่วย

สำหรับธุรกิจรับจ้างบริหารโรงพยาบาลมีทั้งในประเทศ อาทิ โรงพยาบาลเมืองพัทยา โรงพยาบาลองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ศูนย์แพทย์ชุมชนนานาชาติเกาะล้าน นอกจากนี้ยังร่วมทุนศูนย์หัวใจ ในโรงพยาบาลบางพลี สมุทรปราการ ส่วนต่างประเทศเข้าไปรับบริหารโรงพยาบาลในจีนอยู่ระหว่างเจรจาเพิ่มเติมอีกหลายเครือข่ายโรงพยาบาล ส่วนในเมียนมามีการร่วมทุนกับ GMP กลุ่มทุนท้องถิ่นในย่างกุ้ง สร้างโรงพยาบาลขนาด 200 เตียง ชื่อ ARYU International Hospital มูลค่าลงทุน 4,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างก่อสร้างน่าจะแล้วเสร็จปลายปีนี้

"การรับจ้างบริหารถือเป็นอีกรายได้ที่สำคัญในอนาคต โดยตั้งเป้าเติบโตปีละ 20% แต่จากแผนต่าง ๆ มองว่ารายได้รับจ้างบริหารปีนี้น่าจะเติบโตได้ถึง 40%"

ผุดธุรกิจ "โรงพยาบาลกายภาพ"

ส่วนธุรกิจสถานพยาบาลเฉพาะทาง ปัจจุบันมีศูนย์หัวใจ 4 แห่ง และมีแผนสร้างโรงพยาบาลกายภาพ หรือ Step Down Care จำนวน 2 แห่งในปีนี้ ทำเลย่านฝั่งธนฯ อยู่ห่างจากโรงพยาบาลธนบุรี 10 นาที อีกแห่งอยู่ ตรงข้าม รพ.พระนั่งเกล้า พื้นที่ 4 ไร่ครึ่ง โดยคอนเซ็ปต์ต้องการช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้ถูกลงราว ๆ 30% ในกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องพักฟื้นในโรงพยาบาลเป็นเวลานาน รองรับทั้งผู้ป่วย ของ รพ.ธนบุรี และโรงพยาบาลอื่น ๆ ที่สนใจ ในอนาคตยังจะขยายตึกพักฟื้นเข้าไปในโรงพยาบาลของกลุ่มธนบุรีทุกแห่ง

"โรงพยาบาลมีบริการต่าง ๆ รวมถึงด้านจิตใจ คนไทยเป็นโรคเครียดกันมาก เด็กติดเกม ปัญหายาเสพติด ขนาดของโรงพยาบาลมีทั้งเล็กต่ำกว่า 100 เตียง และขนาดใหญ่มากกว่า 200 เตียง"

ทุ่มลงทุนใหญ่ปักธงรังสิต

ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป ยังมีการลงทุนใหญ่ ภายใต้โครงการ Northern Medical City ย่านรังสิต ภายในพื้นที่แบ่งเป็นบ้านพักผู้สูงวัย หรือซีเนียร์โฮม ขนาด 1,200 ยูนิต จับกลุ่มผู้ที่มีรายได้ระดับกลาง-บน, ศูนย์พักฟื้นผู้ป่วย หรือสเต็ป ดาวน์ แคร์, โรงพยาบาลธนบุรี และเมดิคอล พลาซ่า จำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพและร้านอาหารเพื่อสุขภาพ โดยทั้งโครงการน่าจะใช้เวลาก่อสร้าง 5 ปี แบ่งเป็น 3 เฟส เฟสแรกลงทุน 4,400 ล้านบาท พัฒนาซีเนียร์โฮม 1,200 ยูนิต ขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้าง คาดว่าจะเริ่มตอกเสาเข็มปีนี้

"ส่วนซีเนียร์โฮมในทำเลอื่น ๆ ที่มีแผนว่าจะทำ อาจจะต้องดีเลย์ออกไปปีหน้า ตอนนี้มีพื้นที่หมดแล้ว แต่อยู่ระหว่างตัดสินใจเลือกว่าจะเริ่มจากทำเลไหนก่อน"

เมินซื้อกิจการ เน้นสร้างใหม่

นพ.บุญ กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจให้บริการทางการแพทย์ยังเป็นรายได้หลัก มีสัดส่วน 93.36% ธุรกิจเฮลท์แคร์ โซลูชั่น โพรไวเดอร์ หรือธุรกิจรักษาพยาบาลนอกพื้นที่ และธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องเวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ และทันตกรรม ร้านขายยา มีสัดส่วน 6.33% ขณะที่ธุรกิจอื่น ๆ อาทิ พัฒนาระบบซอฟต์แวร์, พัฒนาโครงการเกี่ยวข้องบริการด้านการแพทย์และสุขภาพ มีสัดส่วน 0.31% โดยสนใจสร้างโรงพยาบาลใหม่มากกว่าการซื้อกิจการ ซึ่งปีนี้มีแผนสร้างโรงพยาบาลอีก 3-4 แห่งในต่างจังหวัด เน้นเช่าพื้นที่ระยะยาวและมองจังหวัดที่ยังไม่มีโรงพยาบาลเอกชนตั้งอยู่

ควบคู่กับการปรับปรุงโรงพยาบาลที่มีอยู่เดิม โดยทั้งโรงพยาบาลธนบุรี 1 และ 2 มีแผนจะขยายพื้นที่จอดรถ แผนกคนไข้นอก และเพิ่มเตียง เพื่อดูแลลูกค้าคนไทยและต่างประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนไข้อาเซียนมาจากเมียนมา มีการเติบโต 2 เท่า ปัจจุบันมีคนไข้ต่างประเทศ 10% แต่ปีนี้หันมาทำการตลาดจริงจังมากขึ้นผ่านเอเย่นต์ และสถานทูต รวมทั้งเข้าไปเปิดสำนักงานในเมียนมา และกัมพูชา

"ผลประกอบการโดยรวมปีนี้น่าจะเติบโตใกล้เคียงปีก่อนที่มีการเติบโต 7% ภาพรวมธุรกิจสุขภาพช่วงเศรษฐกิจและกำลังซื้อไม่ดี คนไทยอาจจะหันไปใช้บริการสุขภาพที่มีอยู่อย่างประกันสังคม แต่ของเรายังทำราคาได้ดี ทำให้ลูกค้าไม่ได้ลดลงมากนัก ภาพของเมดิคอลทัวริสต์โดยรวมไม่ได้แย่ แม้ว่าคนไข้จากตะวันออกกลางจะได้รับผลกระทบบ้าง แต่ยังมีกลุ่มคนไข้จากเมียนมาเข้ามาทดแทน จะเห็นว่าลูกค้าเมียนมาเติบโตทุกโรงพยาบาล"

ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 27 - 29 มี.ค. 2560