ทันหุ้น - BCH พอใจผลงานปี 2558 หลังกำไรสุทธิกลับมาเติบโตครั้งแรกในรอบ 3 ปี รับผลบวกจาก WMC เริ่มมีผลขาดทุนน้อยลง พร้อมตั้งเป้ากำไรปี 2559 เติบโตโดดเด่นจากการที่ WMC ถึงจุดคุ้มทุนช่วงครึ่งปีหลัง ด้านโบรกขยับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 10.50 บาท สะท้อนผลงานปี 2558 ดีกว่าคาด พร้อมประเมินกำไรปี 2559 แตะ 640 ล้านบาท โต 21%

แหล่งข่าวจากบริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทงวดปี 2558 ที่ผ่านมาซึ่งมีกำไรสุทธิ 527.33 ล้านบาท ถือว่าเป็นระดับที่น่าพอใจแม้จะเติบโตเพียงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้าที่บริษัทมีกำไรสุทธิ 521.87 ล้านบาท แต่ก็เป็นการกลับมาเติบโตของกำไรสุทธิได้เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี เนื่องจากผลประกอบการของโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอลเซ็นเตอร์ หรือ WMC มีการขาดทุนลดลงมากกว่าที่คาดเอาไว้ หลังจากจำนวนลูกค้าที่เข้าใช้บริการมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

สำหรับภาพรวมธุรกิจของบริษัทในปี 2559 มั่นใจว่ารายได้และกำไรสุทธิจะยังมีการขยายตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทจะมีการขยายฐานลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าประกันสังคมและกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่เข้าใช้บริการใน WMC รวมทั้งบริษัทจะมีการปรับปรุงและเพิ่มจำนวนเตียงในโรงพยาบาล เดิมเพื่อรองรับการขยายฐานลูกค้าใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนเตียงที่ให้บริการอยู่ที่ประมาณ 2,350 เตียงโดยบริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปี 2559 จะเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก

กำไรโตต่อเนื่อง

บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ผลประกอบการของ BCH ในไตรมาส 4/2558 ที่ประกาศกำไรปกติที่ 191 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.7% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 32.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ถือว่าดีกว่าที่คาดไว้ประมาณ 12% ซึ่งรายได้ในไตรมาส 4/2558 มีการเติบโตแข็งแกร่งที่ 8.8% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 18.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ทางด้านอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยเป็น 34.4% จาก 31.5% ใน ไตรมาส 3/2558 โดยเป็นผลจากการที่ WMC มีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างมีนัย ส่งผลให้กำไรปกติปี 2558 ของทาง BCH อยู่ที่ 527 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.1% จากปีก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นการเติบโตครั้งแรกในรอบ 3 ปีนับตั้งแต่เริ่มเปิด WMC ในปี 2556 ขณะที่ฝ่ายวิจัยได้ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2559 ของ BCH ขึ้น 4% เป็น 640 ล้านบาท เติบโต 21.4% และปรับเพิ่มรายได้ขึ้นเล็กน้อยโดยคาดเติบโต 11.1% รวมถึงปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 31.7% จาก เดิม 31% สะท้อนแนวโน้มจากไตรมาส 4/2558 ที่ดีกว่าคาด และประเมินราคาเป้าหมายที่ 10.50 บาท

ที่มา: หนังสือพิมพ์ทันหุ้น วันที่ 2 มีนาคม 2559