สธ.ออกระเบียบจัดซื้อยาแนวปฏิบัติเดียวกัน ใช้หลักจัดซื้อร่วม ป้องกันทุจริต

รมว.สธ.ออกระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการจัดซื้อจัดหายาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยา ให้ทุกจังหวัดปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ มีคณะกรรมการจัดทำบัญชียาในแต่ละระดับ ทั้งหน่วยงาน อำเภอ จังหวัด และระดับเขต ให้ทุกหน่วยงานจัดทำแผนซื้อยาให้แล้วเสร็จใน พ.ย.57 จากนั้นให้นพ.สสจ.อนุมัติแผน ก่อนพิจารณาจัดซื้อร่วมในระดับจังหวัดหรือระดับเขต เพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสม เอื้อต่อการแก้ปัญหาสุขภาพประชาชน และการดูแลผู้ป่วยใกล้บ้านจัดระบบติดตามประเมินประสิทธิผล ความคุ้มค่า และความปลอดภัยของผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน  

นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์

30 พ.ย.57 นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ได้ดำเนินการสร้างระบบธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการ เพื่อให้เป็นกระทรวงสีขาว เป็นองค์กรต้นแบบในเรื่องระบบคุณธรรม โดยเฉพาะเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างให้มีความโปร่งใสไม่มีปัญหาการทุจริต โดยล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามในระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการบริหารจัดการด้านยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยา เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2557 เพื่อให้การบริหารจัดการด้านยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยา ได้แก่ วัสดุการแพทย์ วัสดุทันตกรรมวัสดุวิทยาศาสตร์การแพทย์ วัสดุเอกซเรย์ และวัสดุอื่นๆ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้กับผู้ป่วยเฉพาะราย เพื่อให้หน่วยงานในสังกัดใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานทั่วประเทศ เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งบประมาณ และตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน 

นพ.ณรงค์กล่าวต่อว่า สาระสำคัญในระเบียบฉบับนี้ ประกอบด้วย กำหนดให้จัดตั้งคณะกรรมการ 4 ระดับ คือระดับเขตจังหวัด อำเภอ และหน่วยงาน คณะกรรมการประกอบด้วยผู้อำนวยการ ผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้สั่งใช้ ผู้ใช้ ผู้รับผิดชอบจัดซื้อจัดหา และหน่วยงานผู้รับผิดชอบ เพื่อทำหน้าที่จัดทำบัญชีรายการยาและเวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดทำแผนจัดซื้อของแต่ละหน่วยงานสอดคล้องกับปัญหาสาธารณสุขในพื้นที่และการใช้ตามศักยภาพของสถานบริการ โดยให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจัดทำกรอบบัญชีรายการยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งจังหวัด เพื่อใช้ในสถานบริการแต่ละระดับ เป็นประโยชน์ในการให้บริการและดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ใกล้บ้าน

นพ.ณรงค์ กล่าวต่อว่า ในการดำเนินการจัดซื้อดังกล่าวได้ให้ทุกหน่วยงานยึดตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุพ.ศ. 2535 อย่างเคร่งครัด ส่วนรายการที่มีมูลค่าต่อหน่วยสูงหรือเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ยาเสพติดให้โทษ ให้ทุกหน่วยงานจัดระบบควบคุมกำกับตรวจสอบการใช้อย่างเข้มงวดและรายงานการใช้ทุกเดือน ทั้งนี้ในการสั่งใช้ยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาจะต้องมีระบบกำกับประเมินและตรวจสอบการใช้ 3 ด้านที่สำคัญคือประสิทธิผล ความคุ้มค่าและความปลอดภัยของผู้ป่วย เพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักโดยได้ให้ทุกหน่วยงานจัดทำแผนการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาให้แล้วเสร็จภายในพฤศจิกายน 2557 มอบหมายให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเป็นผู้อนุมัติแผนการจัดซื้อ เพื่อดำเนินการจัดซื้อร่วมกันในระดับจังหวัดหรือในระดับเขตตามความจำเป็นและเหมาะสม ซึ่งจะทำให้ได้ยาและเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาที่มีประสิทธิภาพในราคาที่เหมาะสม 

โดยขณะนี้สามารถจัดซื้อยาร่วมในระดับเขต ส่วนเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาอยู่ระหว่างการหารือและประสานงานกับคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุเพื่อให้สามารถปฏิบัติได้เช่นเดียวกับการจัดซื้อยา ทั้งนี้กำหนดให้หัวหน้าหน่วยงาน หัวหน้าส่วนราชการจะต้องประกาศเกณฑ์จริยธรรมว่าด้วยการจัดซื้อจัดหาและการส่งเสริมการขายยา และเวชภัณฑ์ที่มิใช่ยาไว้ในที่เปิดเผยเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อให้เกิดธรรมาภิบาล โดยจะมีการประกาศยกย่องเชิดชูหน่วยงานที่ปฏิบัติตามระเบียบหลักเกณฑ์จริยธรรมที่ดีเพื่อเป็นแรงจูงใจด้วย