สธ.เร่งขยายงานบริการสุขภาพช่องปาก ลง รพ.สต.และ ศสม.ให้ได้ร้อยละ 50 ป้องกันฟันผุ และโรคปริทันต์ จัดทันตบุคลากรให้บริการอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน
21 ต.ค.57 นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์เนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 21 ตุลาคม ของทุกปีว่า ปัจจุบันสุขภาพช่องปากเป็นปัญหาใหญ่ โดยเฉพาะปัญหาฟันผุและโรคปริทันต์ นอกจากจะทำให้มีอาการปวดแล้ว เชื้อโรคในจุดที่เป็นโรคดังกล่าว ยังอาจลุกลามไปอวัยวะอื่นๆ ได้ ปัญหาที่พบได้มากขึ้นขณะนี้คือโรคปริทันต์หรือโรครำมะนาด จะมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลไม่ได้ ทำให้ติดเชื้อง่าย มีอาการจะรุนแรงกว่าประชาชนทั่วไป และรักษายากขึ้น เนื่องจากผู้ป่วยโรคเบาหวานจะมีภูมิต้านทานโรคต่ำอยู่แล้ว ดังนั้นจะต้องแปรงฟัน ดูแลฟันไม่ให้มีหินปูนซึ่งเป็นที่สะสมของเชื้อโรค ต้องดูแลควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และตรวจสุขภาพช่องปากทุก 6 เดือน
ทั้งนี้ ผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติล่าสุดปี 2556 พบประชาชนเข้าถึงบริการด้านทันตกรรมเพียงร้อยละ10กระทรวงสาธารณสุขจึงได้เร่งพัฒนาระบบบริการสุขภาพ โดยให้เขตสุขภาพทั้ง 12 เขตทั่วประเทศและ กทม. จัดบริการด้านทันตกรรม และดูแลสุขภาพช่องปาก ซึ่งเป็น 1 ใน 10 สาขาหลักของการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ(Service Plan) ทั้งในระดับโรงพยาบาลภายในจังหวัดและในระดับเขต เพื่อให้ประชาชนทุกพื้นที่เข้าถึงการดูแลอย่างเท่าเทียมกัน โดยในปี 2558 นี้ กระทรวงสาธารณสุขจะเพิ่มการให้บริการสุขภาพช่องปาก ลงไปที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และที่ศูนย์สุขภาพชุมชนเมือง(ศสม.) ให้ได้ 4,885 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 50 ของ รพ.สต.และ ศสม.ทั่วประเทศ ให้บริการโดยทันตแพทย์ หรือทันตาภิบาลอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน เพื่อลดความแออัดของการบริการทันตกรรมใน รพ.เขตเมือง เพิ่มการเข้าถึงบริการส่งเสริมป้องกันและรักษาพื้นฐานของประชาชนในชนบท เช่นการขูดหินปูน การเคลือบหลุมร่องฟัน เพื่อป้องกันฟันผุ โรคปริทันต์ซึ่งจะลดการสูญเสียฟันในผู้สูงอายุ และยังช่วยป้องกันโรคอื่นๆ ที่จะตามมา เช่น การติดเชื้อที่หัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน ปอดบวมในผู้สูงอายุ เป็นต้น
สำหรับการส่งเสริมสุขภาพช่องปากจะเน้นใน 5 กลุ่ม ได้แก่ 1. คลินิกฝากครรภ์ (ANC) คือ การตรวจสุขภาพช่องปากหญิงฝากครรภ์อย่างน้อย 1 ครั้ง บริการขูดหินน้ำลาย ทำความสะอาดฟัน และ บริการทันตกรรมหรือส่งต่อในรายที่จำเป็น 2. คลินิกส่งเสริมสุขภาพเด็กดี (WCC) มีการให้แปรงฟันและยาสีฟันให้กับเด็กทุกคนที่มารับบริการ มีการตรวจช่องปาก ความสะอาด และประเมินความเสี่ยงต่อโรคฟันผุของเด็ก การฝึกพ่อแม่/ผู้ดูแลเด็กแปรงฟันแบบลงมือปฏิบัติ จัดระบบเฝ้าระวัง ติดตาม ดูแลต่อเนื่องในเด็กกลุ่มเสี่ยง (เด็กกลุ่มเสี่ยงคือ เด็กที่ฟันไม่สะอาด/ฟันมีรอยขาวขุ่น/มีฟันผุ)ให้บริการเด็กที่มีภาวะเสี่ยงด้วยการทาฟลูออไรด์วาร์นิชทุก6เดือน
3. ศูนย์พัฒนาเด็ก คือการตรวจสุขภาพช่องปากเด็กทุกคนปีละ 1 ครั้ง เด็กกลุ่มเสี่ยงได้รับการทาฟลูออไรด์วานิช ภาคเรียนละ 1 ครั้ง โดยทันตบุคลากรหรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ผ่านการอบรม 4. โรงเรียนประถมศึกษา คือ การตรวจสุขภาพช่องปากนักเรียนประถมศึกษาทุกคนปีละ 1 ครั้ง ให้บริการเคลือบหลุมร่องฟันกรามแท้ซี่ที่ 1 แก่เด็กนักเรียนประถมศึกษา การให้บริการทันตกรรมแก่นักเรียนประถมศึกษาตามความจำเป็น และ5. กลุ่มผู้สูงอายุ คือ การตรวจสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุในชมรมผู้สูงอายุปีละ 1 ครั้ง พร้อมจัดบริการใส่ฟันทั้งปากแก่ผู้สูงอายุที่สูญเสียฟัน และรากฟันเทียมในกรณีที่จำเป็น
- 8 views