เครือข่ายสหวิชาชีพรพช.ภาคใต้ กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ และชมรมแพทย์ชนบท ออกแถลงการณ์จี้ สธ.หยุดเคลื่อนไหวสร้างระบบรวมศูนย์การจัดการระบบสุขภาพ หลังมีม็อบแพทย์ พยาบาล บุกสปสช.เขต 12 สงขลา ร้องสปสช.จัดสรรงบ 30 บาทไม่เป็นธรรม แถลงการณ์ชี้เป็นความพยายามของปลัดสธ.ที่จะดึงงบไปจัดสรรเองให้เขตสุขภาพ ทำลายหลักการถ่วงดุล ผู้ให้บริการและผู้ซื้อบริการ

ขอบคุณภาพจาก Facebook/ชมรมแพทย์ชนบท

20 ต.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.สมชาย ศรีสมบัณฑิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตากใบ ประธานเครือข่ายสหวิชาชีพโรงพยาบาลชุมชนภาคใต้ ร่วมกับอาจารย์ชโลม เกตุจินดา ที่ปรึกษาเครือข่ายหลักประกันสุขภาพภาคประชาชนภาคใต้ และชมรมแพทย์ชนบท ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านความพยายามรวมศูนย์การจัดการระบบสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข หลังจากที่มีกลุ่มแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และสังกัดโรงพยาบาล จาก จ.ปัตตานี จ.นราธิวาส และ จ.ยะลา กว่า 300 คน เดินทางมาชุมนุมที่หน้าสำนักงานสปสช. เขต 12 เพื่อร้องเรียนถึงการบริหารและจัดสรรเงินอย่างไม่เป็นธรรมของสปสช. พร้อมนำป้ายโจมตีการบริหารของสปสช. อาทิ "สปสช.บริหารเงินมั่ว"

ทั้งในแถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นความพยายามของ กระทรวงสธ. นำโดย นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดสธ.ที่ต้องการกดดันลดบทบาทผู้ซื้อบริการของสปสช. เหลือเพียงแค่การทำหน้าเสมียนธนาคารคอยโอนเงินให้หน่วยบริการสธ.ตามที่สธ.ต้องการเท่านั้น ถือเป็นการรวบอำนาจจัดสรรเงินมาชงเองกินเอง และไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน เพราะผิดหลักการถ่วงดุล ผู้ซื้อบริการ และผู้ให้บริการออกจากกัน

จึงขอเรียกร้องให้กลุ่มคนดังกล่าวหยุดการกระทำที่จะทำให้ระบบบริการสุขภาพและทำให้การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนชะงักงันเพียงเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มอำนาจเดิมที่คิดจะรวมศูนย์การจัดการสุขภาพ

มีรายละเอียดทั้งหมดดังนี้

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2557 มีกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์จากจังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนหนึ่ง มีการจัดตั้งมารวมตัวที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต 12 เขตพื้นที่สงขลา ที่ดูแล 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง โดยมีประเด็นเรียกร้องหลายประเด็น ส่วนใหญ่เป็นเรื่องแนวทางการจัดสรรเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพ เงินไม่พอ เงินจัดสรรแล้วโรงพยาบาลขาดทุนมีภาระหนี้สินอยู่ไม่ได้ จึงขอให้มีการเปลี่ยนการจัดสรรเงินใหม่โดยใช้เขตสุขภาพเป็นกลไกในการจัดสรร

โดยภาพรวมของข้อเรียกร้องของกลุ่มที่มาชุมนุมเรียกร้องที่ สปสช.สงขลาในครั้งนี้คือ ต้องการให้ สปสช.จัดสรรเงินงบประมาณในกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าใหม่ ตามที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ได้ตั้งธงไว้ คือ ให้มีเขตสุขภาพ 12 เขตทั่วประเทศ และให้ สปสช.ในแต่ละเขตพื้นที่ จัดสรรงบประมาณให้แก่โรงพยาบาลต่างๆตามที่คณะกรรมการเขตสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุขแจ้งผลการจัดสรรไป นั่นหมายความว่า กระทรวงสาธารณสุขมุ่งหวังลดบทบาทผู้ซื้อบริการ (purchaser) ของ สปสช.ให้เหลือเพียงหน้าที่เสมียนธนาคารที่ทำหน้าที่เพียงการโอนเงินให้หน่วยบริการสาธารณสุขเท่านั้น ซึ่งเป็นการเรียกร้องให้ สปสช.ทำผิดกฎหมายและผิด พรบ.หลักประกันสุขภาพ

หลักการการแยกผู้ซื้อบริการและผู้จัดบริการออกจากกัน (purchaser-provider split) เป็นหลักสากลที่ทั่วโลกใช้ การที่กระทรวงสาธารณสุขนำโดยปลัดณรงค์ สหเมธาพัฒน์ มีความคิดที่จะรวบอำนาจการจัดสรรเงิน มาชงเองกินเองนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และไม่ได้มีหลักประกันเลยว่าเมื่อกระทรวงสาธารณสุขจัดสรรเงินเองแล้ว ประโยชน์จะตกกับประชาชน

ทั้งนี้ ภาคประชาชน ภาคีทีร่วมขับเคลื่อนระบบหลักประกันสุขภาพมาตั้งแต่ต้น ยืนยันว่าการจัดระบบจัดสรรงบที่มีกลไกถ่วงดุลย์ทั้ง ผู้จัดบริการ ผู้ซื้อบริการ เป็นกลไกที่สามารถตรวจสอบได้แม้ว่าจะมีความติดขัดบ้างแต่ก็มีทิศทางกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นและกระจายงบลงสถานบริการมีพื้นที่อย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม ขณะที่กำลังมีการเตรียมความพร้อมให้เกิดกลไกเขตสุขภาพซึ่งจะมีทุกภาคส่วนเข้าร่วมกำลังดำเนินการสู่กระบวนการรับฟังทุกฝ่าย กลับมีกลุ่มบุคคลถูกจัดตั้งยุยงเพื่อสนองการกลับมาใช้อำนาจแบบรวมศูนย์ขาดการมีส่วนร่วม

เครือข่ายหลักประกันสุขภาพภาคประชาชนภาคใต้ กลุ่มคนรักหลักประกัน และชมรมแพทย์ชนบทขอเรียกร้องให้กลุ่มคนดังกล่าวหยุดการกระทำที่จะทำให้ระบบบริการสุขภาพและทำให้การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนชะงักงันเพียงเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มอำนาจเดิมที่คิดจะรวมศูนย์การจัดการสุขภาพ