สธ.หาแนวทางปรับฐานอัตราค่าจ้างพกส.กว่า 1.3 แสนคน ชี้ให้สอดคล้องภาวะเศรษฐกิจและพื้นที่ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจตามนโยบาย คสช. พร้อมตั้งคณะทำงานกำหนดหลักเกณฑ์สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ทั้ง ค่าทำขวัญกรณีบาดเจ็บ พิการ เสียชีวิต ค่าตอบแทนพิเศษจังหวัดชายแดนใต้ ค่ารักษาทายาทสายตรง เป็นต้น
นพ.วชิระ เพ็งจันทร์
20 ส.ค.57 นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมคณะกรรมการบริหารพนักงานกระทรวงสาธารณสุข(พกส.) ว่า ปลัดสธ.มีนโยบายให้เร่งดำเนินการเพิ่มขวัญกำลังใจแก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในทุกระดับ ให้สอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนของฝ่ายสังคมจิตวิทยา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่จะปรับขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการในวันที่ 1 เม.ย. 2558 ซึ่งสธ. มีข้าราชการและลูกจ้างทั้งสิ้นรวม 3 แสนกว่าคน ใช้เงินค่าจ้างทั้งจากงบประมาณและเงินบำรุงของสถานพยาบาล ขณะเดียวกันได้เดินหน้าการปฏิรูประบบบริการสุขภาพเป็นเขตสุขภาพ 12 เขต และ 1 เขตกทม. โดยจะจัดตั้งสำนักงานสาธารณสุขเขตหรือสสข. ทั้ง 13 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2557 ซึ่งจะทำให้ระบบการบริหารจัดการมีความชัดเจน พร้อมที่จะนำไปสู่การแบ่งอำนาจ มอบอำนาจ และกระจายอำนาจไปสู่เขตสุขภาพ ทั้งเรื่องการบริหารงบประมาณ ทรัพยากรทางการแพทย์ และบุคลากรอย่างสอดคล้องกับความจำเป็นของพื้นที่
นพ.วชิระกล่าวต่อว่า ในวันนี้ที่ประชุมได้มีมติใน 4 เรื่อง ได้แก่
1.การจ้างพกส.โดยหลังจากสธ.ได้ประกาศระเบียบกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยพนักงานกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2556 ซึ่งมีทั้งเจ้าหน้าที่สายวิชาชีพและสายสนับสนุนบริการ ขณะนี้ได้บรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็น พกส. แล้ว 126,899 อัตรา และจะบรรจุเพิ่มอีก 12,427 อัตราในเขตสุขภาพทั้ง 10 เขตที่ขอจ้างเพิ่มเข้ามายังสธ. ให้เสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคม 2557
2.มอบให้ฝ่ายเลขาฯ จัดประชุมผู้รับผิดชอบด้านการบริหารการเงินการคลัง และผู้แทนที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลจากเขตสุขภาพทุกเขต ร่วมกันวิเคราะห์ปรับฐานค่าจ้างให้เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ตามนโยบาย คสช. และบริบทของแต่ละพื้นที่ ให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการบริหารพนักงานกระทรวงสาธารณสุขในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนกันยายน 2557
3.ตั้งคณะทำงานพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ในการเพิ่มสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้แก่ พกส. เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ เช่น การจ่ายค่าทำขวัญในกรณีได้รับบาดเจ็บ สูญเสียอวัยวะหรือพิการ การจ่ายค่าตอบแทนพิเศษรายเดือนกรณีที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เช่นเดียวกับข้าราชการอื่นๆ สิทธิค่ารักษาพยาบาลสำหรับทายาทสายตรง คือ ลูก พ่อ แม่ และคู่สมรส โดยได้รับสิทธิมากกว่าสิทธิพื้นฐานโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือเรียกว่าโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าบวก (UC Plus) ให้เร็วที่สุด
4.ติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมความคิดเห็นของพนักงานกระทรวงสาธารณสุขและผู้บริหารที่เป็นนายจ้าง และชี้แจงสิทธิประโยชน์ในระยะยาวหลังเกษียณของสมาชิกกองทุน เพื่อนำมาวิเคราะห์กำหนดประเภทกองทุน มูลค่ากองทุน และแผนบริหารกองทุนในอนาคต รวมไปถึงการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับ พกส. ตั้งเป้าหมายสมาชิกให้ได้ร้อยละ 70 ของพกส.ทั้งหมด กำหนดให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2558
- 6 views