สธ.วางแผนเตรียมความพร้อมรับเหตุการณ์รุนแรง 3 ระดับ ย้ำดูแลทุกคนเสมอภาคเท่าเทียมเต็มที่ ปลอดภัยที่สุด
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า ภายหลังที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศ ได้กำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดเสี่ยงในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะต้องเตรียมความพร้อมขั้นสูงสุด โดยให้ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการจังหวัด ซึ่งประจำการที่โรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไปทุกจังหวัด สำรองเตียง คลังเลือด ห้องผ่าตัด และเตรียมหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน พร้อมปฏิบัติการร่วมกับหน่วยแพทย์ทหารเสนารักษ์ทันทีที่ได้รับการประสาน เพื่อดูแลผู้เจ็บป่วยทุกคนอย่างเสมอภาค เท่าเทียมกัน อย่างเต็มที่และมีความปลอดภัยที่สุด ให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ติดตามประเมินสถานการณ์ และบัญชาการการดูแลประชาชนหากเกินศักยภาพของจังหวัด
ด้านนพ.วชิระ เพ็งจันทร์ ประธานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัย ด้านการแพทย์และสาธารณสุข กล่าวว่า ในพื้นที่กทม.และปริมณฑล ได้วางแผนความพร้อมรองรับเหตุการณ์รุนแรง3 ระดับ คือเล็กน้อย ปานกลาง และรุนแรงมาก เพื่อให้ทีมแพทย์กู้ชีพฉุกเฉินระดับสูง สามารถปฏิบัติการได้อย่างเต็มที่ ร่วมกับหน่วยกู้ชีพขั้นพื้นฐาน เช่นจากมูลนิธิร่วมกตัญญูและป่อเต๊กตึ๊ง ซึ่งมีประมาณ 60 ทีม ขณะนี้ได้แบ่งพื้นที่การทำงานร่วมกับกทม. และแพทย์ทหาร และกำหนดจุดรวมทีมแพทย์กู้ชีพในการปฏิบัติการที่โรงพยาบาลสงฆ์
ทั้งนี้ ได้ให้โรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ ได้แก่ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เตรียมสำรองเตียง เวชภัณฑ์ เลือด และห้องไอ.ซี.ยู. โดยประสานการทำงานร่วมกับศูนย์เอราวัณ กทม. โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลเอกชน และกองอำนวยการรักษาความสงบ หรือกอ.รส. โดยการกำหนดจุดต่างๆในการรับส่งต่อผู้ป่วยหรือบาดเจ็บตามแผนปฏิบัติการร่วม
สำหรับการดูแลที่จุดชุมนุมที่ถนนอักษะ จ.นครปฐม ได้ปรับแผน โดยย้ายศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าไปประจำการที่รพ.พุทธมณฑล ติดตามประเมินสถานการณ์ทุกวัน และเตรียมทีมแพทย์กู้ชีพระดับสูงวันละ 8 ทีม ปฏิบัติงานร่วมกับมูลนิธิร่วมกตัญญู มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง มูลนิธิเอกชนในพื้นที่ และให้โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม เป็นศูนย์กลาง รับการส่งต่อผู้เจ็บป่วยตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ สถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.56 – 20 พ.ค.57 มีผู้บาดเจ็บ 807ราย เสียชีวิต 25 ราย และยังรักษาตัวในโรงพยาบาล11 ราย ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บรายใหม่เพิ่มเติม
- 1 view