สธ.เผยผู้ป่วยหอบหืด ถุงลมโป่งพอง อาการดีขึ้น หลังอาการกำเริบจากการสูดดมสารพิษและควันไฟบ่อขยะแพรกษา แพทย์ให้กลับบ้านแล้ว ระบุเจาะเลือดทหาร เจ้าหน้าที่ผจญเพลิง รวม 120 ราย ส่วนวันที่ 27 มี.ค. เตรียมส่งทีมแพทย์ รถเอกซเรย์เคลื่อนที่ให้บริการฟรีที่ อบต.แพรกษา
       
วันนี้ (25 มี.ค.) นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบสารพิษจากเหตุไฟไหม้บ่อขยะแพรกษา จ.สมุทรปราการ ว่า ผู้ป่วยโรคหอบหืดและถุงลมโป่งพองอาการกำเริบ ที่นอนพักรักษาที่ รพ.สมุทรปราการ จำนวน 3 ราย ขณะนี้อาการดีขึ้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว สำหรับประชาชนในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด ภูมิแพ้ ถุงลมโป่งพอง และโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด หากมีอาการผิดปกติขอให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล หรือสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านเพื่อรับการตรวจรักษาทันที สำหรับผู้ป่วยทั้งหมดยังอยู่ที่ 1,261 รายเท่าเดิม
       
ด้าน นพ.นำพล แดนพิพัฒน์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ ในฐานะผู้บัญชาการวอร์รูมไฟไหม้บ่อขยะ จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า วันนี้ได้ให้บริการเจาะเลือด เอกซเรย์ปอด แก่กำลังพลจากกองพลทหารราบที่ 11 จ.ฉะเชิงเทรา และเจ้าหน้าที่ผจญเพลิงขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่นที่เข้าปฏิบัติงาน รวม 120 คน เพื่อดูความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด การทำงานของตับ ไต โลหะหนักบางชนิด เช่น ตะกั่ว เอกซเรย์ปอด และการทดสอบสมรรถภาพของปอด ทั้งนี้ วันที่ 27 มี.ค. สสจ.สมุทรปราการ ร่วมกับ รพ.บางพลี จะจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พร้อมรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ ให้บริการตรวจรักษาโรคเบื้องต้น เจาะเลือด และเอกซเรย์ปอด ที่ อบต.แพรกษา โดยประชาชนที่อาศัยใกล้จุดเกิดเพลิงไหม้ สามารถมารับบริการตรวจรักษาได้ฟรี