เครือข่ายหมอบุกวุฒิสภายื่นแสนชื่อต้านรัฐบาลโกง

ไทยโพสต์-"หมอณรงค์" นำทีมเครือข่าย สธ.บุกสภา หอบรายชื่อกว่าแสนรายไม่เอารัฐบาลขี้โกงยื่นรอง ปธ.วุฒิฯ "หมอประดิษฐ" ติงขึ้นป้ายหน้า รพ.โยงการเมืองไม่เหมาะสม ห่วงขัดแย้ง หวั่นอีกกลุ่มอ้างสิทธิ์ทำบ้าง

ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นำคณะแพทย์เครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข อาทิ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ คณบดีเภสัชศาสตร์ คณะ ทันตแพทยศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมทั้งกลุ่มประชาคมสาธารณสุข ชมรมทันตภูธร อดีตผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ข้าราชการบำนาญและ เหล่านายกสภาวิชาชีพ ร่วมกันแต่งชุดดำเข้ายื่นหนังสือแสดงจุดยืนของเครือข่าย ในการคัดค้านการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยประณามผู้ที่ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบและการแสดงจุดยืนไม่ยอมรับรัฐบาลที่โกงประชาชน รวมทั้งมีความเห็นตรงกัน ว่าประเทศไทยต้องการการปฏิรูปอย่างจริง จัง

ทั้งนี้ ได้มีการรวบรวมรายชื่อผู้ที่สนับ สนุนจุดยืนเครือข่าย 122,260 รายชื่อ แบ่งเป็นเครือข่ายทางการแพทย์ 86,570 คน และข้าราชการ บุคลากรจากกระทรวงอื่น รวมทั้งประชาชน 31,093 คน ยื่นต่อนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1

นายสุรชัยกล่าวว่า ส.ว.มีความเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองไม่ต่างกัน จะขอทำหน้าที่อย่างดีที่สุดเพื่อประชาชน โดยขอชื่นชมความกล้าหาญของเครือข่ายแพทย์ในการแสดงออกซึ่งความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ เชื่อว่าไม่ใช่การเลือกข้างแน่นอน แต่เป็นการทำเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน และปัญหาที่สะสมมานานนี้เกิดมาจากประชาชนไว้ใจนักการเมืองมากเกินไป ไม่ใช้สิทธิ์ในการตรวจสอบนักการเมือง ดังนั้นประชาชนต้องแสดงความเป็นเจ้าของประเทศให้มากกว่านี้ เพื่อหยุดยั้งความสูญเสียของประเทศชาติ อย่างไรก็ตาม จะดำเนินการตามหนังสือที่ส่งมาโดยเร็วที่สุด โดยจะส่งเรื่องไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้รู้เจตนารมณ์ของเครือข่ายแพทย์อย่างชัดเจน

ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ศ.นพ.วินิต พัวประดิษฐ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้นำบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ รพ.รามาธิบดี ออกมาแสดงพลังเพื่อแสดงจุดยืนในการไม่เอารัฐบาลโกงประชาชน

ที่ด้านหน้าตึกอำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดกระบี่ นายวีรวัฒน์ ยอแสงรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกระบี่ พร้อมด้วยบุคลากรแพทย์และพยาบาล โรงพยาบาลกระบี่ พร้อมใจกันแต่งชุดสีดำ และรวมตัวกันถือป้ายไวนิลมีข้อความแสดงจุดยืนคัดค้านรัฐบาลโกง และประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ พร้อมเรียกร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสางคดีหนูน้อยถูกยิงจนเสียชีวิต ทั้งในพื้นที่จังหวัดตราดและกรุงเทพฯ เพื่อนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว

ที่ จ.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองบุรีรัมย์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่และบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในเขตอำเภอละหานทราย และอีกหลายอำเภอในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ขึ้นป้ายต่อต้านการคอร์รัปชัน ประณามการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ และสนับสนุนการปฏิรูปประเทศไทย ที่หน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล  รวมทั้งแต่งกายชุดดำมาทำงาน เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์เป็นวันที่สอง

ด้าน นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ความเห็นต่างเกิดขึ้นได้ในระบอบประชาธิปไตย แต่ที่สำคัญคือเมื่อมีโอกาสแสดงความคิดเห็น ทุกฝ่ายต้องระลึกไว้เสมอว่า สถานที่ราชการและตำแหน่งทางราชการเป็นสิ่งที่ต้องสงวนและละเว้นไม่นำมาใช้เพื่อแสดงออกถึงความเห็นส่วนตัวของใคร ซึ่งการแสดงออกใดๆ ก็ตามที่ใช้ตำแหน่งราชการและสถานที่ราชการ จะต้องเป็นไปตามระเบียบของหน่วยงานและกฎหมายของบ้านเมือง

"ถ้าเมื่อใดก็ตามที่อีกฝ่ายหนึ่งนำไป ใช้ได้ อีกฝ่ายหนึ่งจะอ้างสิทธิ์ขึ้นมาบ้าง เรื่อง นี้จะกลายเป็นข้อขัดแย้ง เพราะสถานที่ราช การนั้นเป็นสถานที่สาธารณะ ไม่ได้เป็นของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะที่จะมาอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของได้ ดังกรณีที่กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) มาที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอไม่ให้นำสถาน ที่ราชการไปใช้ติดป้ายแสดงความเห็นทาง การเมืองใดๆ และขอมิให้มีการนำตำแหน่งหน้าที่ไปใช้ในการเรียกร้องทางการเมือง นี่ก็คือกรณีตัวอย่างที่กลุ่มที่เห็นต่างไม่อยากให้นำวิชาชีพมาเป็นประเด็นทางการเมืองเพื่อให้เกิดความแตกแยก จึงขอเรียกร้องให้ข้าราชการทุกท่านใช้วิจารณญาณในเรื่องนี้ให้มาก นอกจากนี้ระยะนี้ยังอยู่ในช่วงการเลือกตั้ง จึงต้องระวังเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมืองด้วย" นพ.ประดิษฐระบุ

นพ.ภีศเดช สัมมานันท์ ในฐานะตัวแทนกลุ่มเพื่อนสาธารณสุขเพื่อประชาธิป ไตย กล่าวถึงกรณีที่ นพ.ณรงค์ล่ารายชื่อผู้ที่เห็นด้วยกับการปฏิรูปประเทศไทยและการต่อต้านการคอร์รัปชันว่า เห็นด้วยกับเนื้อหาและวิธีดำเนินการ แต่อยากขอติงเรื่องการรวบรวมรายชื่อของเจ้าหน้าที่ทั้งหมดมาไว้ที่ผู้บังคับบัญชาของหน่วยงาน แล้วให้ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดมาลบชื่อของตัวเองออกจากบัญชีรายชื่อดังกล่าว ตรงนี้อาจจะเกิดความเกรงใจ ไม่อยากมีปัญหากับเพื่อนร่วมงานจึงยอมให้นำชื่อไปใช้ ทั้งนี้ ตนเห็นว่าการล่ารายชื่อที่ถูกต้องควรเป็นการลงความเห็นโดยเจ้าตัวแบบไม่เปิดเผย

นอกจากนี้ไม่เห็นด้วยกับการที่โรงพยา บาลต่างๆ ขึ้นป้ายแสดงออกความคิดเห็นทางการเมือง เพราะกระทบกับภาพลักษณ์ของโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่ควรจะเป็นกลางเพื่อให้ทุกฝ่ายเชื่อถือและไว้วางใจ ไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของใคร รวมทั้งไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่จะให้รัฐบาลรักษาการลาออก เนื่องจากไม่มีบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญที่จะให้ทำได้ ไม่เห็นด้วยกับการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง เพราะการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญหรือการปฏิรูปก็ควรทำโดยประชาชนทั้งประเทศหรือตัวแทนประชาชนทั้งประเทศ

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557