สธ.เตือนปีนี้หนาวเย็นนาน ระวังปอดบวม พบเสียชีวิตแล้ว1ราย

กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนระวังโรคปอดบวม ฤดูหนาวปีนี้ที่หนาวเย็นติดต่อกันเป็นเวลานาน แนะวิธีสังเกต 3อาการสำคัญโรคนี้คือ ไข้สูง ไอ หายใจหอบ ขอให้สงสัยเป็นปอดบวม ให้รีบพบแพทย์ทันทีป้องกันการเสียชีวิต เผยแค่ 2 สัปดาห์แรกปี 2557 พบผู้ป่วยโรคปอดบวมทั่วประเทศแล้วกว่า 2,000 ราย เสียชีวิต 1 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและเด็กเล็ก คาดแนวโน้มผู้ป่วยจะมากขึ้น กำชับให้จังหวัดที่ประกาศเป็นพื้นที่ภัยหนาวติดตามสถานการณ์โรคอย่างใกล้ชิด

นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ อาจเพิ่มความสี่ยงให้ผู้ที่มีสุขภาพไม่แข็งแรงอยู่แล้วเจ็บป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจได้ง่าย ที่พบบ่อยคือไข้หวัดและโรคปอดบวม ซึ่งโรคปอดบวมเป็นโรคที่มีอันตรายสูง เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของโรคติดเชื้อทั้งหมดพบได้บ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุและเด็กอายุต่ำกว่า5 ปี ข้อมูลการเฝ้าระวังโรครายเดือนของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จะพบผู้ป่วยโรคปอดบวมจำนวนมาก 2 ช่วง คือฤดูฝน ช่วงเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน และช่วงต้นปีคือมกราคม-มีนาคม โดยในปี 2556พบผู้ป่วยสูงสุดในเดือนมกราคมจำนวน 20,667 ราย ส่วนปี 2557 ตั้งแต่ 1- 12 มกราคม พบผู้ป่วยแล้ว 2,239 ราย เสียชีวิต 1 ราย และคาดว่าแนวโน้มผู้ป่วยจะมากขึ้น โดยเฉพาะในจังหวัดที่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบพิบัติภัยหนาว

นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อว่า ได้กำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขทุกจังหวัดทั่วประเทศ ติดตามสถานการณ์โรคในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่อากาศหนาวเย็นจัด ขอให้รักษาความอบอุ่นของร่างกาย ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงเจ็บป่วยง่าย 4 กลุ่มสำคัญ ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้มีโรคประจำตัว ควรจัดหาเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มกันหนาวให้เพียงพอ และอยู่ในที่อาศัยที่เหมาะสม ปกป้องลมหนาวได้ หลีกเลี่ยงการนอนตากลมหรือตากน้ำค้าง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ รักษาสุขอนามัยของร่างกาย หมั่นล้างมือ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างเพียงพอ ครบหมู่และปรุงสุกใหม่ๆ เพิ่มอาหารประเภทแป้งและไขมันเพื่อให้พลังงานแก่ร่างกายและไม่คลุกคลีกับผู้ป่วยโรคหวัด

ด้านนายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคปอดบวม สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อหลายชนิด เช่น แบคทีเรียและเชื้อไวรัส อาการของโรคนี้ ผู้ป่วยโดยทั่วไปจะมีอาการสำคัญซึ่งใช้สังเกตในขั้นต้น3 อาการคือมีไข้สูง ไอเจ็บหน้าอก หายใจหอบ อาการมักจะเกิดตามหลังป่วยเป็นไข้หวัดประมาณ 2-3 วัน ส่วนในเด็กเล็กๆผู้ปกครองสามารถสังเกตอาการที่เป็นสัญญาณเตือนโรคปอดบวม ได้แก่ ไข้สูง เด็กมีอาการซึมลง ไม่กินน้ำกินนม ไอมีเสมหะ หายใจหอบเร็ว หรือหายใจมีเสียงดังหวีด หรือหายใจแรงจนชายโครงบุ๋ม หากมีอาการดังกล่าว ขอให้รีบพาเด็กไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรักษาตั้งแต่ระยะแรกอันตรายต่างๆ จะน้อยลง

โรคปอดบวมสามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะหากประชาชนป่วยเป็นไข้หวัดควรงดการออกกำลังกาย เนื่องจากการออกกำลังกายจะทำให้เชื้อโรคลงสู่ปอดได้ง่ายขึ้นอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้น ควรหยุดงาน หยุดเรียน โรคนี้หากนอนพักผ่อนมากๆ ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทดีอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นเอง และใช้ผ้าปิดปาก ปิดจมูกเวลาไอหรือจาม ดื่มน้ำมากๆ เช็ดตัวบ่อยๆ เมื่อมีไข้สูง ให้กินยาตามแพทย์สั่งโดยเคร่งครัด และหมั่นสังเกตอาการที่แสดงว่าจะมีอาการรุนแรง เช่น ไข้ไม่ลด ซึมลง ถ้ามีอาการดังกล่าวควรพาผู้ป่วยไปพบแพทย์