ปลัดสธ.ชี้เขตบริการสุขภาพตอบโจทย์ ลดเวลารอคอย เพิ่มคุณภาพ ไม่ไกลบ้าน

วันนี้(10 มกราคม 2557)ที่โรงพยาบาลมาบตาพุด อ.มาบตาพุด จ.ระยอง นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมติดตามผลการบริหารจัดการระบบบริการสุขภาพในรูปแบบของเขตบริการสุขภาพ

ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2557 ที่เขตบริการสุขภาพที่6 ประกอบด้วย 8 จังหวัดได้แก่ สมุทรปราการ ปราจีนบุรี ชลบุรี จันทบุรี ระยอง ตราด สระแก้ว และ ฉะเชิงเทรา โดยมีนายแพทย์วิศิษฎ์ ตั้งนภากร ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ประธานคณะกรรมการบริหารเขตนำเสนอผลสรุปการดำเนินงาน จากนั้นเดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลแกลง เพื่อติดตามผลการจัดบริการรักษาพยาบาลร่วมกับสถานบริการในระดับพื้นที่

นายแพทย์ณรงค์ กล่าวว่า การจัดระบบบริการในรูปแบบเขตบริการสุขภาพ เป็นยุทธศาสตร์ในการปฏิรูประบบสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข เน้นการกระจายอำนาจเพื่อบริหารการจัดบริการทั้งเรื่องการป้องกันการเจ็บป่วย และการรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วยให้ดีที่สุด ซึ่งมีทั้งหมด 12 เขตครอบคลุมทั่วประเทศดูแลประชาชนเขตละประมาณ 5-6 ล้านคน ให้เข้าถึงบริการอย่างเท่าเทียม ทั่วถึงและไร้รอยต่อ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2556 เป็นต้นมา การบริหารรูปแบบใหม่นี้ เน้นการใช้ทรัพยากรของโรงพยาบาลภายในเขต ที่มีอยู่ในปัจจุบันร่วมกันทั้งเตียงผู้ป่วย บุคลากร การเงินการคลังเสมือนเป็นโรงพยาบาลเดียวกัน เพื่อเพิ่มคุณภาพการบริการ เช่นการลดเวลารอคอยและเพิ่มคุณภาพการดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยจนหายป่วย ไม่ต้องเดินทางไปรักษาไกลบ้านซึ่งเขตบริการสุขภาพที่ 6 เป็นพื้นที่อุตสาหกรรมเกือบทุกจังหวัด มีประชาชนอยู่ในพื้นที่ ประมาณ 8-10 ล้านคน ขณะที่ตามทะเบียนราษฎร์มี 5 ล้านกว่าคน

ผลการของการจัดบริการร่วมของโรงพยาบาลใหญ่และเล็กในช่วง 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2557 คุณภาพบริการหลายเรื่องดีขึ้น เช่นผู้ป่วยโรคตาต้อกระจก 100 เปอร์เซ็นต์ ได้รับการผ่าตัดภายใน 1 เดือน จากเดิมที่ต้องเข้าคิวรอผ่าตัดนานถึง 3 เดือน ซึ่งจะป้องกันและลดปัญหาตาบอดเพราะรอคิวยาวได้ โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ให้การรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยการผ่าตัดและเคมีบำบัดได้ทุกแห่ง ไม่ต้องส่งไปรักษาที่กทม. โดยจะเปิดให้บริการรังสีรักษาที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรีภายในปี 2560 ส่วนผู้ป่วยโรคไตวายได้รับการฟอกไต ล้างไตได้ทันที ไม่ต้องรอคิว โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่งสามารถให้ยาละลายลิ่มเลือดผู้ป่วยโรคหัวใจในภาวะฉุกเฉินก่อนส่งรักษาแพทย์เฉพาะทางได้อย่างปลอดภัย ผู้ป่วยที่มีปัญหาเส้นเลือดหัวใจตีบ จะได้รับบริการขยายหลอดเลือดหัวใจเร็วขึ้นไม่เกิน 2 เดือน เป็นต้น

นายแพทย์ณรงค์กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขจะติดตามผลของการจัดบริการรูปแบบเขตบริการสุขภาพทั้ง 12 เขต ในช่วง 1 เดือนนี้ จะเน้น 2 เรื่องหลักคือ คุณภาพการรักษาผู้ป่วย โดยใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าเบ็ดเสร็จภายในเขตและระดับจังหวัด ทั้งห้องผ่าตัด เครื่องมือแพทย์การดูแลฟื้นฟูผู้ป่วยหลังพ้นวิกฤต และการบริหารจัดซื้อจัดจ้างร่วมกัน โดยเฉพาะการใช้ระบบการจัดซื้อยาและวัสดุที่ใช้ให้ห้องแล็ปร่วมกัน เพื่อให้ประชาชนได้รับยาดีทั้งยาต้นแบบและยาชื่อสามัญ มีคุณภาพเดียวกันทุกจังหวัด และมีห้องแล็ปที่สามารถตรวจวิเคราะห์หาสิ่งผิดปกติในร่างกายได้สอดคล้องกับปัญหาสุขภาพพื้นที่ ช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยรักษาผู้ป่วยได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ