ในขณะที่กำนันผู้ใหญ่บ้านหลายจังหวัดภาคใต้ขึ้นเวทีมวลมหาประชาชนโค่นล้มระบอบทักษิณประกาศจุดยืนขับไล่ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โดยไม่เกรงกลัวจารุพงศ์เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ที่มีคำสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดลงโทษทางวินัย
ล่าสุดข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ออกมาประกาศจุดยืนอย่างเป็นทางการผ่านที่ประชุมประชาคมสาธารณสุข เมื่อวันที่9 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมี นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานแถลงการณ์ประชาคมสาธารณสุขฉบับที่ 3 แสดงจุดยืนให้ปฏิรูปก่อนเลือกตั้งและเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก
แถลงการณ์ระบุว่า การประชุมประชาคมสาธารณสุขในวันนี้จากทุกวิชาชีพสาขาต่างๆ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคของ สธ. มีความเห็นว่าสถานการณ์บ้านเมือง รัฐบาลมีปัญหาด้านความโปร่งใส ไม่ยอมรับอำนาจของตุลาการ แทรกแซงอำนาจนิติบัญญัติเกิดความแตกแยกของสังคม มีแนวโน้มที่จะนำไปสู่ความรุนแรงและส่งผลต่อการบาดเจ็บล้มตาย
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบจะดำเนินการ5 ข้อ ประกอบด้วย 1.ขอย้ำจุดยืนให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง 2.เรียกร้องให้รัฐบาลลาออกโดยทันที เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดการปฏิรูปที่เป็นกลางและยุติธรรม 3.รัฐบาลชุดนี้หมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศแล้ว จึงยืนยันที่จะไม่ทำงานกับรัฐบาลชุดนี้
4.ยืนยันดูแลประชาชนบนพื้นฐานจริยธรรมวิชาชีพอย่างเต็มที่โดยไม่เลือกปฏิบัติ 5.พร้อมแสดงออกทุกวิถีทางเพื่อยืนยันจุดยืนดังกล่าว และขอเชิญชวนประชาคมทุกกระทรวง ทบวง กรม ออกมาแสดงจุดยืนร่วมกัน
สำหรับการประชุมดังกล่าว นอกจาก นพ.ณรงค์ แล้ว ยังข้าราชการในระดับผู้บริหารอีกรายคือ นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัด สธ. เข้าร่วมด้วย ส่วนอธิบดีกรมกองต่างๆ ไม่ได้เข้าร่วมแต่อย่างใด
บรรยากาศการประชุม ข้าราชการสธ.ได้แสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า "ถึงเวลาแล้วที่ สธ.ต้องเป็นผู้นำในการแสดงจุดยืนทางการเมือง" สอดคล้องกับ นพ.ณรงค์ ที่เห็นว่า สธ.ต้องการเป็นตัวอย่างให้กับกระทรวงอื่นๆ
"ณ ตอนนี้ ไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ทุกอย่างที่คิดที่ตัดสินใจจะทำได้บอกเตี่ยและครอบครัวหมดแล้วขอให้ทุกชมรมและหน่วยงานสื่อสารทำความเข้าใจกับคนในองค์กร" นพ.ณรงค์กล่าวก่อนปิดประชุมประโยคสุดท้ายที่ นพ.ณรงค์ พูดคือ"เจอกันเมื่อชาติต้องการ"
ทั้งนี้ ในวันที่ 10 ม.ค. ประชาคมสาธารณสุขจะเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ และในวันที่ 13 ม.ค.จะเข้าร่วมปฏิบัติการ "ชัตดาวน์" กทม.ด้วย
ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ วันที่ 10 มกราคม 2557
- 2 views