นพ.สมชัย นิจพานิช อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ปัจจุบันมูลค่าทางการตลาดของสมุนไพรอยู่ที่ 200-300 ล้านบาทต่อปี แต่พบว่ายังมีตลาดที่มีสมุนไพรเป็นส่วนเกี่ยวข้องมูลค่ากว่าพันล้านบาท คือ ตลาดอาหารเสริมจากสมุนไพร และตลาดเครื่องสำอางที่มีตลาดใหญ่กว่ามูลค่านับแสนล้านบาท หากสามารถเพิ่มมูลค่าด้วยการแปรรูปได้ก็จะทำให้ตลาดสมุนไพรมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ การจะขับเคลื่อนทั้งระบบจะต้องมีทิศทางที่ไปในทิศทางเดียวกัน กรมมียุทธศาสตร์ คือ ยุทธศาสตร์ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ แต่ละประเด็นมี 3 วัตถุประสงค์ เช่น ต้นน้ำ ต้องมีวัตถุดิบเพียงพอ กลางน้ำ ต้องมีการผลิตที่ได้มาตรฐาน ปลายน้ำมีการใช้และการควบคุม และมีการปกป้องสมุนไพรของไทยให้ดี แต่ละเป้าหมายมีการกำหนดวิธีการและกลยุทธ์ที่ชัดเจน
นพ.สมชัยกล่าวว่า การบูรณาการเพื่อเพิ่มมูลค่าสมุนไพรไทยจะต้องทำงานร่วมกันทั้งกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา อุทยานแห่งชาติ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ทางกรมได้เตรียมที่จะเสนอยุทธศาสตร์พัฒนาสมุนไพรโดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันทำยุทธศาสตร์ดังกล่าว โดยจะนำเสนอต่อ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีภายในเดือนก.ย.นี้ เบื้องต้นคาดว่าภายใน 3-5 ปี จะมีงบประมาณราว 1 หมื่นกว่าล้านมาสนับสนุนและขับเคลื่อนในองค์กรด้านสมุนไพร
"การสร้างให้เกิดอุตสาหกรรมสมุนไพรอย่างเป็นระบบและครบวงจร ต้องมีการสนับสนุนทั้งอุปกรณ์และเทคโน โลยีการแปรรูป ซึ่งจำเป็นต้องสนับสนุนให้การผลิตเป็นไปตามมาตรฐานการผลิตที่ดีเบื้องต้น (GMP) โดยเฉพาะยิ่งเมื่อเปิดอาเซียนจำเป็นต้องสร้างมาตรฐานที่ดีไว้ก่อน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการส่งออกต่อไป โดยภาครัฐบาลจำเป็นต้องสนับสนุนในส่วนของโรงงานสารสกัด เนื่องจากภาคเอกชนอาจไม่มีกำลังพอ" นพ.สมชัยกล่าว
ที่มา --ข่าวสด ฉบับวันที่ 9 ก.ย. 2556 (กรอบบ่าย)--
- 4 views