เมื่อวันที่ 23 มี.ค. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมช.สาธารณสุข กล่าวในรายการ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน" ที่ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ถึงนโยบายการรณรงค์การสร้างสุขภาพที่ดีให้กับประชาชนว่า รัฐบาลต้องการสร้างสุขภาพอนามัยที่ดีให้กับประชาชนบนพื้นฐานของการปรับพฤติกรรมเปลี่ยนสุขภาพ รวมถึงลดปัจจัยคุกคามที่มีภาวะเสี่ยงต่อระบบสุขภาพ โดยเฉพาะโรคที่มีแนวโน้มเพิ่มมาใหม่คือโรคเรื้อรังและโรคที่ไม่มีติดต่อ อาทิ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต โรคหัวใจหลอดเลือด โรคมะเร็ง เป็นต้น อีกทั้งยังต้องอาศัยการจัดการสุขภาพในชุมชน ซึ่งต้องมีการพัฒนาศักยภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)ที่มีทั่วประเทศ 1,040,000 คน เราต้องการให้ อสม. เป็นผู้นำในเรื่องนี้ โดยต้องทำงานร่วมกับแพทย์ พยาบาล และ รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบล ในการวางแผนและผลักดันให้คนในชุมชน ปรับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของตัวเอง ทั้งนี้จากการดำเนินการติดต่อกันมา 2 ปี เราได้เห็นว่าไม่มีปัญหาผู้ป่วยโรคความดันโลหิตและโรคเบาหวานรายใหม่เกิดขึ้นในชุมชน

รมช.สาธารณสุข กล่าวอีกว่า จากการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องการให้ อสม. ช่วยดูแลสุขภาพเด็กและสตรี โดยเฉพาะสตรีที่ต้องไม่ให้ถูกคุกคามจากโรคมะเร็งเต้านม รัฐบาลจึงมีนโยบายให้ อสม. เข้ารับการฝึกอบรมการตรวจมะเร็งเต้านม แล้วไปถ่ายทอดความรู้และสอนสตรีที่อยู่ในชุมชน ซึ่งกลุ่มเสี่ยงคือผู้หญิงที่มีอายุ 30-70 ปี ประมาณ 20 ล้านคน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สาธารณสุข มีการให้คำปรึกษาแนะนำอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายว่าในชุมชนที่ห่างไกลจากสถานพยาบาล เราต้องเน้นให้ อสม. มีศักยภาพในการดูแลสุขภาพประชาชน พร้อมกับจัดระบบการส่งต่อได้ด้วย จึงต้องเติมเต็มเรื่องขององค์ความรู้ การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และเครื่องมือในการดูแลสุขภาพเบื้องต้น รวมถึงจัดทำระบบการส่งต่อผู้ป่วยกับ รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลให้มีความชัดเจน ส่วนการจ่ายค่าป่วยการเป็นค่าตอบแทนแก่ อสม. นั้น มีแนวโน้มจะปรับตรงนี้โดยให้มีความมั่นคงมากขึ้น และกระทรวงสาธารณสุขจะยกร่างในพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เพื่อตั้งเป็นกองทุนที่จะดูแลค่าป่วยการ การให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ อาทิ ค่ารักษาพยาบาลของ อสม. และครอบครัว การจัดโควตาให้บุตรของ อสม. ได้ศึกษาต่อด้านสาธารณสุข การพยาบาล หรือการรักษาพยาบาล เป็นต้น รวมถึงการประเมินผลการทำงานของ อสม. ในการรับรางวัลพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่สรรเสริญ ชั้นเหรียญทองและเหรียญเงิน

ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 24 มีนาคม 2556