นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผอ.องค์การเภสัชกรรม (อภ.) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการพัฒนาประสิทธิภาพระบบบริหารเวชภัณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ว่า การเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานโครงการพัฒนาประสิทธิภาพระบบบริหารเวชภัณฑ์ในส่วนการจัดตั้งคลังสำรองยาและเวชภัณฑ์ภูมิภาค ซึ่งจะช่วยลดภาระของโรงพยาบาลที่ต้องจัดซื้อยาสำรองเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มยาราคาแพง อาทิ น้ำยาล้างไต วัคซีน ยาปฏิชีวนะ ยาโรคเบาหวาน เป็นต้น อภ.ได้เดินหน้าต่อรองราคายาไปบ้างแล้วบางส่วน และจะเดินหน้าต่อรองราคายาเรื่อยๆ เพื่อให้เกิดการจัดซื้อยาที่มีคุณภาพและมีราคาที่เหมาะสมมาเก็บไว้ในคลังสำรองยา
"สำหรับความกังวลในเรื่องของคุณภาพยาที่ อภ.เป็นผู้ต่อรองราคายาและจัดซื้อนั้น ได้มีการประสานงานกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ในการตรวจวิเคราะห์คุณภาพยาทั้ง 20 รายการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนว่า สามารถเข้าถึงยาและเวชภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีราคาถูก นอกจากนี้จะสนับสนุนให้เกิดการใช้ยาชื่อสามัญควบคู่กับการตรวจสอบคุณภาพยาไปด้วย เพื่อสร้างราคายาให้เหมาะสม" ผอ.อภ.กล่าว
นพ.วิทิต กล่าวต่อว่า ในส่วนของการแลกเปลี่ยนยาของแต่ละโรงพยาบาลที่มีการสำรองยาเกินกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไป ซึ่ง อภ.จะทำหน้าที่เป็นเคลียริ่งเฮาส์นั้น อภ.ได้ขอให้สำนักงานปลัด สธ. ช่วยประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าวต่อโรงพยาบาลในสังกัด นอกจากนี้ยังจัดทำเว็บไซต์ขึ้นเพื่อให้ทุกโรงพยาบาลเข้ามาร่วมแชร์ข้อมูลในการแลกเปลี่ยนยาได้ ซึ่งภายในเว็บไซต์หลักของ อภ. http://www.gpo.or.th โดยอภ.จะนำข้อมูลดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมผู้บริหาร สธ. เพื่อกำหนดแนวทางและหลักเกณฑ์การปฏิบัติในการแลกเปลี่ยนยา ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในสิ้นเดือนม.ค.นี้ โดยโรงพยาบาลที่จะเข้าร่วมโครงการนี้น่าจะเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีการสำรองยาเป็นจำนวนมาก
--ข่าวสด ฉบับวันที่ 14 ม.ค. 2556 (กรอบบ่าย)--
- 3 views