ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

รักษาการอธิบดีอุทยานฯ เตรียมทำหนังสือเวียนหน่วยงานรัฐ ไม่ใช้บริการรีสอร์ตรุกป่า ชี้หาช่องเอาผิดยากแต่จริยธรรม ขรก.ต้องมี คาดศาลตัดสินบ้านผางามก่อนสิ้นปีนี้ เผย สปสช.-สำนักปลัด สธ. จัดทัวร์วังน้ำเขียว

เมื่อวันที่ 9 ต.ค. นายจงเจริญ กิจสำราญกุล อดีต ผอ.กองนิติการ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงกรณีหน่วยงานในกระทรวงสาธารณสุขเข้าพักและจัดอบรมสัมมนาใน “บ้านผางามรีสอร์ท” ที่ถูกทางอุทยานฯ ทับลาน จับกุมดำเนินคดีจนคดีใกล้สิ้นสุด ว่า ตนเพิ่งเกษียณอายุราชการพร้อมกับนายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานฯ แต่ก็ยังพร้อมให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายกับกรมอุทยานฯอยู่ ซึ่งในส่วนบ้านผางามรีสอร์ทที่คดีอยู่ในชั้นศาลฎีกานั้น จากการติดตามความคืบหน้าก่อนช่วงที่ตนจะเกษียณอายุราชการ ทราบว่าศาลฎีกาจะพิจารณาตัดสินในเร็วๆ นี้ และคงไม่น่าจะเกินสิ้นปี 2555 นี้ และอธิบดีกรมอุทยานฯ คนใหม่ก็คงจะเข้าไปดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตามเราเป็นประชาชนคงจะไปก้าวล่วงศาลไม่ได้ สำหรับกรณีที่รีสอร์ตบ้านพักที่ถูกจับกุมดำเนินคดี ทั้งที่คดีสิ้นสุดแล้ว และที่เพิ่งถูกจับกุมยังคงเปิดให้บริการและมีหน่วยงานราชการเข้าไปใช้บริการ เข้าพักและอบรมสัมมนานั้น มองในแง่ดีเขาอาจจะไม่ทราบว่ารีสอร์ตดังกล่าวมีคดีอยู่ แต่ก็เป็นเรื่องแปลกที่จะไม่ทราบเพราะกรณีวังน้ำเขียว-ทับลานเป็นข่าวครึกโครมใหญ่โตมานาน การที่หน่วยงานราชการเข้าไปใช้บริการจึงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม

นายจงเจริญ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีนายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน เตรียมนำรายชื่อรีสอร์ต บ้านพักที่บุกรุกอุทยานฯ ทับลาน ขึ้นป้ายติดประกาศหน้าอุทยานฯ ว่า หัวหน้าอุทยานฯ มีอำนาจดำเนินการได้ เพื่อให้ประชาชนรู้ว่ารีสอร์ต บ้านพักตากอากาศใดบ้างถูกจับกุมดำเนินคดีแล้ว จะได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการไม่สนับสนุนรีสอร์ตดังกล่าว

ด้านนายเริงชัย ประยูรเวช รักษาการอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากอุทยานฯ ทับลานแล้ว จากนี้จะดำเนินการจัดทำหนังสือเวียนจากกรมอุทยานฯ ไปยังส่วนราชการต่างๆ ทุกกระทรวง เพื่อขอความร่วมมือหลีกเลี่ยงการจัดอบรมสัมมนาและเข้าพักในรีสอร์ต บ้านพัก ที่ถูกกรมอุทยานฯ ดำเนินคดีข้อหาบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ทั้งในเขตอุทยานฯทับลานและพื้นที่อื่นทั่วประเทศ ในเมื่อวันนี้สังคมทุกภาคส่วนตื่นตัวในเรื่องการปกป้องหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติแล้ว หน่วยงานรัฐก็ควรปฏิบัติให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันด้วย ไม่เช่นนั้นสิ่งที่ได้ร่วมกันทำมาตลอดก็จะสูญเปล่า และถูกสังคมตั้งคำถามได้ เมื่อถามว่าการเข้าใช้บริการรีสอร์ตดังกล่าวถือเป็นการใช้งบประมาณของรัฐในทางที่ไม่ถูกต้องของส่วนราชการได้หรือไม่

นายเริงชัย กล่าวว่า การเข้าพักในรีสอร์ตดังกล่าวก็ถือเป็นสิทธิ์ของหน่วยงานนั้นๆ ในแง่กฎหมายกรมอุทยานฯ คงหาช่องทางที่จะไปเอาผิดกับหน่วยงานรัฐที่ไปสนับสนุนรีสอร์ตที่บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ยังไม่ได้ แต่ประเด็นนี้เป็นเรื่องของจริยธรรมมากกว่าว่าสมควรและเหมาะสมหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทับลานได้ออกตรวจสอบรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศที่ถูกจับกุมดำเนินคดีในพื้นที่อุทยานฯ ทับลาน ว่ายังมีการเปิดให้บริการอยู่หรือไม่ จนกระทั่งไปพบกับคณะเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขที่จอดเรียงรายอยู่ใน ภายในบ้านผางามรีสอร์ทนับ 10 คัน เช่น รถยนต์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สาขา จ.ตาก รถตู้ของสายด่วน สปสช. หมายเลขทะเบียน ฮธ 1815 กทม. รถยนต์ของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข หมายเลขทะเบียน นข 2368 เพชรบูรณ์ เป็นต้น

ด้านนายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถามถึงความเหมาะสม ทางด้านจริยธรรมของหน่วยงานราชการ สปสช. เป็นหน่วยงานใหญ่ของกระทรวงสาธารณสุข การเข้าไปดำเนินการในลักษณะดังกล่าวกับหน่วยงานเอกชนที่มีกรณีคดีบุกรุกป่า อยู่คงไม่เหมาะสมและไม่สมควร ซึ่งต้องตรวจสอบว่าทาง สปสช. ได้ประสานงานในเรื่องการเข้าพักกับรีสอร์ตก่อนเป็นคดีหรือไม่ เพราะเรื่องนี้เป็นข่าวครึกโครมมาเป็นปีแล้ว ตนไม่แน่ใจว่า สปสช. ทราบหรือไม่ว่ารีสอร์ตดังกล่าวมีคดีบุกรุกอุทยานฯ อยู่ ถ้าไม่ทราบก็พอเข้าใจได้ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขก็คงต้องว่ากล่าวตักเตือนหน่วยงานในสังกัด ไม่เช่นนั้นก็จะเท่ากับเป็นการสนับสนุนให้มีการกระทำผิดต่อไป

ที่มา: http://www.thairath.co.th