สสจ.เลย เผย หลายพื้นที่เกิดความสับสนการจัดสรรงบหลักประกันสุขภาพปีงบประมาณ 2567 และงบกลาง 5,924.3 ล้านบาท เหตุไม่มีการระบุว่าเป็นงบส่วนใด/รายการบริการใด ทำให้จัดสรรงบผู้ป่วยในจากงบกลางได้ยาก เพราะต้องเหลือจากเบิกจ่ายค่าบริการ 3 รายการก่อน ขอ สปสช.ทำรายละเอียดให้ชัดเจน 

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567  ฝ่ายสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สป.สธ.) เผยแพร่ข่าว นพ.ชาญชัย บุญอยู่ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย ให้ข้อมูลถึงกรณีการจัดสรรงบประมาณผู้ป่วยในจากงบกลาง ว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้รับทราบปัญหาและให้ความสำคัญกับเรื่องงบประมาณผู้ป่วยในของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จึงมีนโยบายให้คงอัตราการจ่ายที่ 8,350 บาทต่อ ADjRW รวมถึงผลักดันให้มีการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 อนุมัติวงเงิน 5,924.3 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามนโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค "บัตรประชาชนใบเดียว รักษาได้ทุกที่" ของรัฐบาล ซึ่งการเบิกจ่ายจะต้องแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม งบกลางดังกล่าวประกอบด้วยหลายรายการ ได้แก่ 

1. ค่าบริการตามนโยบายรัฐบาล 30 บาทรักษาทุกที่ 2. กรณีบริการที่จำเป็นในการเข้ารับบริการยังหน่วยบริการอื่นนอกเครือข่ายกรณีเหตุสมควร 3. กรณีรายการค่าบริการที่งบประมาณไม่เพียงพอ และ 4. หากมีเงินคงเหลือให้นำมาใช้จ่ายเพิ่มเติมกับค่าบริการผู้ป่วยในเพื่อจ่ายให้หน่วยบริการในอัตรา 8,350 บาทต่อ ADjRW 

“การเบิกจ่ายช่วงก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2567 หลายพื้นที่มีความสับสนอย่างมาก เพราะมีทั้งส่วนที่เป็นงบประมาณประจำปี 2567 ปกติ และงบกลางที่ครม.อนุมัติเพิ่มเติม อย่างพื้นที่จังหวัดเลย งบที่ สปสช.เบิกจ่ายให้แก่หน่วยบริการในจังหวัด ก็ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าส่วนใดเป็นงบปกติ ส่วนใดเป็นงบกลาง หรือเป็นงบค่าบริการรายการใด ทำให้ยากแก่การจัดสรรโดยเฉพาะงบประมาณผู้ป่วยในที่จะต้องนำมาใช้จ่ายกรณีงบกลางคงเหลือจากค่าบริการในข้อ 1-3 จึงอยากขอให้ สปสช.ทำรายละเอียดทางบัญชีการเบิกจ่ายงบประมาณแต่ละรายการให้ชัดเจน เพื่อป้องกันความสับสนให้แก่หน่วยบริการ” นพ.ชาญชัยกล่าว