กรมสุขภาพจิต ห่วงใยปชช.ติดตามข่าวสาร เหตุไฟไหม้รถบัส อย่างต่อเนื่อง หวั่นสร้างความรู้สึกเศร้าโศก โกรธเคืองติดค้างในใจ และสร้างปัญหาสุขภาพจิต พร้อมเร่งสื่อสารสังคมในการช่วยกัน ไม่สร้างภาพ AI  ที่จะเร้าอารมณ์ของผู้ที่กำลังโศกเศร้า ไม่เสริมข่าว หรือส่งต่อเพื่อยั่วยุอารมณ์  

ไม่สร้างภาพ AI

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า   ทีม MCATT ของกรมสุขภาพจิตลงพื้นที่เยียวยาเหตุการณ์ ไฟไหม้รถทัศนศึกษา อย่างต่อเนื่อง รวมถึงส่งทีมไปยังจังหวัดอุทัยธานี เพื่อดูแลสุขภาพจิตครอบครัวผู้เสียชีวิต และสื่อสารการดูแลสภาพจิตใจประชาชนที่สามารถเข้าใจและปฎิบัติตามได้ ทั้งนี้  เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางกรมสุขภาพจิตได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ผ่านการเฝ้าระวังและขอความร่วมมือเขียนข้อความไว้อาลัยอย่างเหมาะสม โดยหลีกเลี่ยงการวาดภาพประกอบขึ้นมาใหม่หรือสร้างภาพจาก AI ที่จะเร้าอารมณ์ของผู้ที่กำลังโศกเศร้า

อย่ารับข่าวอย่างท่วมท้น

ทั้งนี้  ได้รับการสนับสนุนจากสื่อมวลชนและประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะการเยียวยาไม่ใช่เพียงแต่ครอบครัวผู้เสียชีวิต แต่ยังรวมถึงประชาชนที่ติดตามข่าวสาร แล้วเกิดอาการเศร้าอย่างรุนแรงอีกด้วย การไม่รับข่าวสารมากเกินไป "ข่าวท่วมท้น" (information overload) เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยในยุคดิจิทัล ซึ่งผู้คนได้รับข้อมูลข่าวสารในปริมาณที่มากเกินไปจนทำให้เกิดความเครียด สับสน หรือไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อข่าวที่เข้ามาเป็นข้อมูลขัดแย้งกัน หรือเป็นข้อมูลที่เกินกว่าความสามารถในการประมวลผลของสมองในเวลาที่จำกัด การรับข้อมูลข่าวสารมากเกินไปอาจทำให้เกิดความรู้สึกวิตกกังวล ไม่มั่นคง หรือรู้สึกว่ามีเรื่องที่ต้องกังวลอยู่ตลอดเวลา

อีกทั้ง การรับข่าวอย่างต่อเนื่อง อาจสร้างความรู้สึกโกรธเคือง และทำให้เกิดอารมณ์ฉุนเฉียวต่อเหตุการณ์ที่ไม่เป็นไปตามที่ต้องการได้ ซึ่งในปัจจุบันส่งผลต่อกระแสสังคมทำให้เกิด ความขัดแย้งและการตอบโต้เพื่อแสดงความรู้สึกที่เห็นต่างโดยใช้ช่องทางโซเชียลต่างๆ จนสร้างผลกระทบทางสังคมในมิติอื่นๆ

นพ.กิตติศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า การดูแลตนเองสำหรับคนทั่วไปที่รับรู้เหตุการณ์ร้ายแรงสามารถทำได้ ดังนี้ 1. เลือกข่าวจากแหล่งที่เชื่อถือได้ 2. ไม่ติดตามข่าวอย่างต่อเนื่องมากเกินไป ไม่ควรเสพข่าวมากเกินไป รวมถึงอาจหลีกเลี่ยงการอ่านคอมเม้นท์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ 3. ไม่ส่งต่อข้อมูลที่ยั่วยุ หรือการแชร์ภาพ ที่ไม่พึงประสงค์ เพื่อเป็นการเคารพสิทธิของผู้ที่ได้รับผลกระทบ 4. รู้เท่าทันความคิดและอารมณ์พฤติกรรมของตนเองเพื่อจัดการ และแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตเบื้องต้นได้

5. สำรวจสัญญาณเตือนสุขภาพจิต หรือใช้ช่องทางในการขอรับคำปรึกษาเพื่อทำให้คลายความวิตก และลดความตื่นตระหนกจากการติดตามเหตุการณ์ซ้ำๆ และ 6. หาวิธีการดูแลสุขภาพจิตเบื้องต้นที่เน้นให้ผ่อนคลาย และการอยู่กับผู้อื่น ที่สำคัญไม่ควรติดตามข่าวซ้ำไปเป็นเวลาต่อเนื่องยาวนานเกิน 2 ชั่วโมง ควรหากิจกรรมอื่นๆ เพื่อลดความสนใจ และลดผลกระทบต่อสุขภาพจิตและการใช้ชีวิตประจำวันด้วย

ทั้งนี้ หากคุณเครียดไม่สบายใจ กรมสุขภาพจิตและภาคีเครือข่ายมีช่องทางปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตสำหรับประชาชน โดยสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่ 1. ตรวจสุขภาพใจกับ MENTAL HEALTH CHECK-IN หรือ www.วัดใจ.com 2. DMIND บนแอปพลิเคชันหมอพร้อม 3. Sati App สามารถดาวน์โหลดฟรี ให้ท่านมีพื้นที่ออนไลน์สำหรับเด็ก เยาวชน และคนทั่วไป อายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป ที่รู้สึกเครียด ทุกข์ใจ รู้สึกอยากทำร้ายตนเอง หรือไม่อยากมีชีวิตอยู่ และท่านต้องการใครสักคนที่จะรับฟังโดยไม่ตัดสินคุณ 4. สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชม.