สธ.ขับเคลื่อนลดผู้ป่วย โรคเอ็นซีดี โชว์อาคารต้นแบบ "บ้านรื่นรมย์" ดูแลผู้สูงวัย

กรมอนามัย ขับเคลื่อนโยบายส่งเสริมสุขภาพ ขานรับนโยบาย สธ. ปี 2568 ป้องกันโรคเอ็นซีดี หวังช่วยลดค่าใช้จ่ายผู้ป่วย 1.3 แสนล้านบาท พร้อมเปิดบ้านรื่นรมย์ อาคารต้นแบบบริการ ดูแลผู้สูงอายุแบบองค์รวมโดยทีมสหวิชาชีพ

เนื่องจากประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ จากข้อมูลจากกรมกิจการผู้สูงอายุ เมื่อกลางปี 2567 จากจำนวนประชากรกว่า 66 ล้านคน มีผู้สูงอายุเป็นจำนวนกว่า 13.5 ล้านคน หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 20 หนึ่งในนโยบายสำคัญปี 2568 ของกระทรวงสาธารณสุข จึงมุ่งเน้นเรื่องโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs

จากข้อมูลพบว่า โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs ทำให้คนเสียชีวิตปีละ 400,000 คน โดยกลุ่มโรคเอ็นซีดี ต้องใช้งบประมาณในการดูแลผู้ป่วยมากถึง 1.3 แสนล้านบาท หากลดโรคเอ็นซีดีลงได้ ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพได้มากขึ้น

อีกทั้ง คนไทยมีกิจกรรมทางกายที่ไม่เพียงพอ นำไปสู่การเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง คนไทยมีอัตราการเสียชีวิตจากโรคนี้สูงถึงร้อยละ 71 ของการเสียชีวิตทั้งหมด สธ.จึงมีนโยบายการขับเคลื่อนประเด็นส่งเสริมสุขภาพกายโดย เชิญชวนประชาชนออกกำลังกายทุกวัน เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยมีกิจกรรมทางกายเพียงพอ ร้อยละ 75 ในปี 2573 เพิ่มโอกาสให้ประชาชน มีกิจกรรมทางกายระดับปานกลางอย่างน้อย 150 – 300 นาที ต่อสัปดาห์

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จึงผลักดันและขับเคลื่อนนโยบายการส่งเสริมสุขภาพกาย “ออกกำลังกายวันจันทร์มันส์เดย์” ใน 4 setting ได้แก่ สถานศึกษา องค์กรภาครัฐ สถานประกอบการ และชุมชน โดยผลิตสื่อองค์ความรู้ วิดิทัศน์ด้านการมีกิจกรรมทางกาย และออกกำลังกายทุกกลุ่มวัย (เพลง Long Life…Thai Fit) รณรงค์ประชาสัมพันธ์ สร้างกระแส และสื่อสารสร้างการรับรู้ความรอบรู้สุขภาพการมีกิจกรรมทางกายและการออกกำลังกายทาง Social ผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มก้าวท้าใจ ส่งเสริมให้ประชาชนมีทักษะด้านการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ผ่าน E-learning ในดิจิทัลแพลตฟอร์มก้าวท้าใจ เพื่อส่งเสริมให้ประชากรไทยมีพฤติกรรมการออกกำลังกาย โดยสิ่งที่ประชาชนจะได้รับ ดังนี้

1) มีรูปแบบการออกกำลังกายแบบใหม่เป็นทางเลือกให้ประชาชนออกกำลังกาย

2) มีเครื่องมือส่งเสริมกิจกรรมทางกายที่ประชาชนสามารถทำได้ด้วยตนเอง โดยการส่งผลออกกำลังกาย สะสมแต้มสุขภาพ แลกของรางวัล

3) ประชาชนสามารถประเมินและติดตามภาวะอ้วนได้ด้วยตนเอง

4) มีสื่อความรอบรู้และองค์ความรู้ในการดูแลสุขภาพด้วยตนเอง

โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเยี่ยมชมห้อง FITNESS CENTERS และอาคารบ้านรื่นรมย์ Elderly Day Care Center เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ว่า การส่งเสริมสุขภาพเพื่อป้องกันโรค เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาสุขภาพคนไทย ซึ่งสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ใช้เงินในการดูแลรักษาผู้ป่วยโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่กว่า 1.3 แสนล้านบาท หากไม่มีการป้องกันโรค จนประชาชนเจ็บไข้ได้ป่วยเพิ่มมากขึ้น เงินก็จะใช้มากขึ้นอย่างต่อเนื่องได้ และอาจมีปัญหาด้านงบประมาณเกิดขึ้น หากไม่มีการป้องกันและส่งเสริมสุขภาพ

สธ.จึงมุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพคนไทย ป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต และโรคหลอดเลือดสมอง

"FITNESS CENTERS ที่กรมอนามัยดำเนินการ เป็นแบบอย่างให้หน่วยงานต่าง ๆ มาดูและมาใช้เป็นตัวอย่าง นำไปเป็นต้นแบบต่อไป ข้างในยังมีเครื่อง Hyperbaric O2 chamber หรือเครื่องทำออกซิเจน ที่ผมได้ทดลองใช้ ช่วยสร้างความสดชื่นใหักับร่างกายได้ด้วย" นายสมศักดิ์ กล่าวและว่า

นอกจากนี้ สธ.ยังได้เปิดอาคารบ้านรื่นรมย์ อาคารต้นแบบบริการ เพื่อพัฒนารูปแบบบริการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุแบบองค์รวม ให้บริการดูแลผู้สูงอายุแบบเช้าไปเย็นกลับ ภายใต้การดูแลจากทีมสหวิชาชีพ แพทย์ พยาบาล นักกายภาพบำบัด นักจิตวิทยา รักโภชนาการ นักนันทนาการ นักวิชาการสาธารณสุข และ Caregiver

บ้านรื่นรมย์ อาคารต้นแบบบริการดูแลผู้สูงอายุ ให้ปลอดภัยและลดความเครียด

โดยมีห้องส่งเสริมสุขภาวะ (Wellness Room) ซึ่งจะแบ่งออก 2 โปรแกรม ได้แก่

1) โปรแกรมฝึกฝนกิจวัตรประจำวันผู้สูงอายุ (ADL Training Program)

2) โปรแกรมเวชศาสตร์วิถีชีวิตผู้สูงอายุ (Elderly Lifestyle Progam)

ภายอาคารยังมีห้องนันทนาการ (Main Room) สำหรับผู้สูงอายุในด้านต่าง ๆ ได้แก่

1) คัดกรองสุขภาพ (Health Station)

2) สูงวัยฟันดี 80 ปี 20 ซี่

3) ฟื้นฟูสมรรนะทางกายและกล้ามเนื้อ
มัดเล็ก

4) เมนูชูสุขภาพ

5) เกมบริหารสมอง

6) ศิลปะ และดนตรีบำบัด

7) อาหารเสริมสร้างกล้ามเนื้อ

เพื่อให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพที่แข็งแรงตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ช่วยผู้สูงอายุชะลอความเสื่อม ส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ลดความเครียด และมีสถานที่ปลอดภัยให้ได้ผ่อนคลายอีกด้วย