สธ. ร่วมสถาบันวัคซีนนานาชาติ ติวเข้ม “บุคลากรด้านวัคซีน” ในภูมิภาคครั้งแรก

ไทยร่วมสถาบันวัคซีนนานาชาติ จัดหลักสูตรพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านวัคซีนในภูมิภาคอาเซียนขึ้นเป็นครั้งแรก ตอบโจทย์ พึ่งพาตนเองให้พร้อมรองรับภัยพิบัติทางสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

เมื่อวันที่ 25 กันยายน  ที่โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ กรุงเทพมหานคร นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดการประชุม ASEAN Meeting on the ASEAN Vaccine Security and Self–Reliance (AVSSR) ในหัวข้อ Strengthening Vaccine Security Through Collaboration and Establishing the AVSSR Steering Committee โดยมี นายเอกภาพ พันธวงศ์ รองเลขาธิการอาเซียน นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ผู้แทนกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการสาธารณสุขแห่งอาเซียน ผู้แทนสำนักงานเลขาธิการอาเซียน องค์การอนามัยโลก กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ กลุ่มพันธมิตรความร่วมมือด้านนวัตกรรมเพื่อรับมือโรคระบาด สถาบันวัคซีนนานาชาติ   ธนาคารโลก สมาชิกสภาวัคซีนโลก ผู้เชี่ยวชาญจาก Regionalized Vaccine Manufacturing Collaborative (RVMC) และ Duke-NUS Medical School เข้าร่วมทั้งแบบ Onsite และ Online รวมกว่า 70 คน

นพ.โอภาส กล่าวว่า ที่ประชุมมีการหารือระเบียบวาระสำคัญในการผลักดันให้เกิดการดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการเพื่อสร้างความมั่นคงและการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนในอาเซียน พ.ศ. 2564 - 2568 อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะประเด็นการสร้างความร่วมมือเพื่อการวิจัยพัฒนาวัคซีน การจัดตั้งคลังสำรองวัคซีน รวมถึงพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านวัคซีน และการจัดซื้อวัคซีนในระดับภูมิภาค เพื่อให้มีวัคซีนเพียงพอต่อความต้องการของอาเซียนทั้งในภาวะปกติและภาวะที่มีการระบาด รวมถึงกำหนดแผนที่ทางเดินสู่ความมั่นคงและการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนในอาเซียน

นอกจากนี้ สถาบันวัคซีนแห่งชาติยังได้ร่วมมือกับสถาบันวัคซีนนานาชาติ จัดหลักสูตรพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านวัคซีนในภูมิภาคอาเซียนขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อตอบโจทย์การผลักดันการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนของภูมิภาคอาเซียนอย่างเป็นรูปธรรม ให้พร้อมรองรับภัยพิบัติทางสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยการสนับสนุนของธนาคารโลก เน้นเรียนรู้เกี่ยวกับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีน กลไกการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์วัคซีนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมถึงการรับมือและการสื่อสารความเสี่ยงในภาวะที่ประชาชนมีความลังเลใจในการรับวัคซีน ซึ่งมีประเทศสมาชิกอาเซียนสนใจเข้าร่วมกว่า 100 คน

ด้าน นพ.นคร กล่าวว่า การประชุม AVSSR ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-27 กันยายน 2567 เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน เตรียมพร้อมรองรับภัยสุขภาพใหม่ในอนาคต ผ่านการสร้างเครือข่ายพันธมิตรด้านวัคซีนที่เข้มแข็ง สามารถต่อยอดกิจกรรมเพื่อดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์และปฏิบัติการความมั่นคงและการพึ่งพาตนเองด้านวัคซีนในอาเซียนที่ทุกประเทศร่วมกันวางไว้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดร่วมกันต่อไป โดยเชื่อมั่นว่า เมื่อทุกประเทศร่วมมือกันอย่างแน่นแฟ้น ไม่เพียงแค่ภูมิภาคของเราที่จะเข้มแข็งขึ้น แต่ยังส่งสัญญาณถึงโลกว่าอาเซียนพร้อมก้าวไปสู่อนาคตด้วยความมุ่งมั่นที่จะพึ่งพาตัวเองด้านวัคซีน โดยมีความร่วมมือเป็นพลังสำคัญที่จะนำความมั่นคงด้านวัคซีนมาสู่ภูมิภาคและเกิดความยั่งยืนทางระบบสาธารณสุข