ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สธ.เร่งอัปสกิลทุกกรม กอง พัฒนาธรรมาภิบาล-ระบบข้อมูลสุขภาพดิจิทัล รองรับบริการประชาชนเพิ่มความรวดเร็ว สร้างความปลอดภัยทั้งระบบ ย้ำหัวใจสำคัญอยู่ที่ “ธรรมาภิบาล”  ประสาน สพร.ร่วมเสริมทักษะบุคลากรและพัฒนางานดิจิทัลเต็มที่

เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2567 ที่อาคารศูนย์บริการผลิตภัณฑ์สุขภาพเบ็ดเสร็จ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการแนวทางการจัดทำธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐและมาตรฐานข้อมูลสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข พร้อมกล่าวว่า ปัจจุบันการบริหารจัดการงานภาครัฐในหลายหน่วยงานดำเนินการด้วยระบบบดิจิทัล ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดประเด็นการพัฒนาระบบสุขภาพดิจิทัล เป็นหนึ่งในนโยบายหลัก เพื่อปรับปรุงและพัฒนารูปแบบการบริการประชาชนให้เหมาะสมกับยุคสมัย

โดยที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะด้านระบบสุขภาพดิจิทัล กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2566 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้มอบนโยบายการผลักดัน “ระบบสุขภาพดิจิทัลของประเทศ” โดยมีประเด็นสำคัญ คือ 1. ให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักด้านสุขภาพดิจิทัล มุ่งเน้นการบูรณาการและเชื่อมโยงข้อมูลจากทุกภาคส่วน 2. เร่งพัฒนาระบบสุขภาพดิจิทัลเพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีด้านสาธารณสุข 3. สร้างความไว้วางใจของประชาชนต่อระบบสุขภาพดิจิทัล โดยปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 4. สนับสนุนการวิจัยพัฒนานวัตกรรมสุขภาพดิจิทัล และ 5. ใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์ในการขับเคลื่อนนโยบาย 

“การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลไม่เพียงแต่ช่วยให้การดำเนินงานต่างๆ มีความสะดวก รวดเร็ว แต่ยังช่วยลดภาระงานของผู้ให้บริการในหลายๆ ด้านได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่เป็นรากฐานของระบบสุขภาพดิจิทัล คือ การบริหารจัดการข้อมูลอย่างมีธรรมาภิบาลและมาตรฐานด้านข้อมูลสุขภาพ เพราะจะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างปลอดภัย ถูกต้องตามกฎหมาย และมีคุณภาพสูงสุด นำไปสู่การใช้ประโยชน์จากข้อมูลและการเปิดเผยข้อมูล ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และเป็นไปตามหลักการความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์” นพ.โอภาสกล่าว

นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาระบบสุขภาพดิจิทัลของประเทศ และเป็นไปตาม พ.ร.บ.การบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. 2562 ที่กำหนดให้หน่วยงานของรัฐต้องจัดให้มีการบริหารงานภาครัฐและการให้บริการสาธารณะให้กับประชาชนที่สะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ มีความมั่นคงปลอดภัย มีคุณภาพมาตรฐาน น่าเชื่อถือ มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ สามารถรักษาความเป็นส่วนบุคคลของข้อมูล และสามารถเชื่อมโยงระบบข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระทรวงสาธารณสุขจึงจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อช่วยเพิ่มความรู้ความเข้าใจให้บุคลากรในสังกัดสามารถนำไปพัฒนาระบบงานและข้อมูลตามแนวทางของกฎหมาย ด้วยหลักธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐ และบูณาการการใช้ประโยชน์ข้อมูลร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพต่อยอดสู่การสร้างความเชื่อมั่นในระบบสุขภาพดิจิทัล เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและระบบสาธารณสุขของประเทศไทย 

ด้าน นพ.พฤทธิ์ ธนะแพสย์ ผู้อำนวยการสำนักสุขภาพดิจิทัล กล่าวว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้มุ่งพัฒนาทักษะความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดทำธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐและมาตรฐานข้อมูลสุขภาพ การประยุกต์ใช้เครื่องมือต่างๆ โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ สพร. มาให้ความรู้การจัดทำ การวิเคราะห์ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานระบบข้อมูลสุขภาพ โดยมีบุคลากรจากกรม กอง ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 90 คน และสำนักงานเขตสุขภาพ 10 คน เข้าร่วมประชุม