ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

มูลนิธิรพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ชี้อย่าปล่อยให้กรณี “ยาดองผสมเมทานอล” อันตราย! ทำลายภูมิปัญญาชาวบ้าน แนะศึกษาวิจัย “รางจืด” โอกาสของสมุนไพรล้างพิษ 

กลายเป็นปัญหาทันทีสำหรับ ยาดองผสมเมทานอล อันตราย ส่งผลร้ายต่อร่างกายจนเสียชีวิต กลายเป็นข่าวในช่วงที่ผ่านมานั้น ขณะเดียวกัน ยาดองสมุนไพร ข้อเท็จจริงแล้ว เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านแต่โบราณ 

เรื่องนี้  ดร.ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวถึง “สูตรยาดอง“ ซึ่งเป็นวิธีสกัดสารสำคัญออกจากตัวยาสมุนไพร มีหลายรูปแบบ เช่น การดองเค็ม การดองเปรี้ยว การดองน้ำผึ้งและการดองเหล้า ซึ่งการดองเหล้าถือเป็นวัฒนธรรมพื้นบ้าน ด้านการดองยาที่นิยมที่สุด เป็นการพึ่งตนเองด้านสุขภาพของชุมชน โดยชุมชนมีความรู้ความสามารถในการกลั่นเหล้าเอง แต่เมื่อมีการผูกขาดเรื่องการผลิตเหล้า ทำให้ความรู้เรื่องการกลั่นเหล้าสูญหายต้องพึ่งพิงจากข้างนอกและเหล้าก็มีราคาแพงจึงมีการลักลอบผลิตด้วยความไม่รู้จนเป็นปัญหา และมักเกิดในสังคมชนชั้นระดับล่าง ซึ่งมาจากต่างจังหวัดเป็นส่วนใหญ่ ในอดีตมีสูตรในการดองสมุนไพรโดยหมอพื้นบ้านที่มีความรู้เรื่องตำรับยา มีความรู้เรื่องชนิดของ สมุนไพรที่ใช้

ส่วนใหญ่ยาดองจะมีสรรพคุณในการบำรุงกำลัง เป็น สิ่งที่ยาฝรั่งไม่มี วัฒนธรรมดั้งเดิมนั้นกินเหล้าก็คือกินเหล้าเป็นสันทนาการล้วนๆ ส่วน การดื่มยาดองเหล้าเน้นการ กินเพื่อเป็นยา กินเป็นเป๊ก ไม่ได้ดื่มเพื่อหวัง ความมึนเมาเป็นหลักแต่ก็อาจจะมีอาการมึนเมาได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ในระยะหลังเกิดการล่มสลายของภูมิปัญญา การสูญหายของทรัพยากรป่ายา ไม่มีการต่อยอด หมอยาก็หายไป แต่ทำให้ชาวบ้าน กลั่นเหล้าเองไม่เป็น การดองเหล้าก็ไม่เข้าใจ ไม่รู้จักสมุนไพรดีพอ แต่ตำรับยาดองมีอยู่ ในตำราแล้วมีคนเอาไปทำเองและนำไปขายส่ง ซึ่งไม่รู้เลยว่า สมุนไพรที่ใช้ถูกต้องหรือไม่ เรียกว่าคนทำไม่รู้ ทำให้มีความน่ากลัวตั้งแต่ 1. เหล้าที่เอามาทำ ปลอดภัยหรือไม่ 2. สมุนไพรที่ใช้ อาจจะไม่ใช่สมุนไพรที่ใช้สำหรับดองเหล้า รวมถึงสูตรการผสมอาจจะทำไม่ได้สัดส่วน

3. อาจจะมีการใส่สารอะไรเพิ่มเข้าไปด้วยความไม่รู้ หรือด้วยความไม่ปรารถนาดี อย่างเช่นก่อนหน้านี้พบว่ามีการนำยาฆ่าหญ้ามาใส่เพื่อให้เหล้าแรงขึ้น เมามากขึ้น ก็ทำให้เกิดอันตราย 4.ผู้ดื่มอาจจะมีโรคประจำตัวบางอย่างและกำลังรับประทานยาบางอย่าง ซึ่งยาดองก็อาจจะไม่ถูกกับโรคประจำตัว หรือยาที่ผู้ดื่มใช้อยู่ เพราะฉะนั้น ถ้าคนทำ คนกินไม่มีความรู้จะเป็นอันตราย

อย่าปล่อยให้กรณี “ยาดองผสมเมทานอล” ทำลายภูมิปัญญาชาวบ้าน

เมื่อถามกรณียาดองเหล้าที่กำลังมีปัญหา ทั้งที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน ดร.ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวว่า กรณียาดองเหล้าที่มีปัญหาพบสารเมทิลแอลกอฮอล์ซึ่งเป็นอันตราย มีผู้ป่วย และผู้เสียชีวิตอยู่ในขณะนี้ ตนอยากให้มีการศึกษา แบออกมาให้หมดว่า ใส่อะไรลงไปบ้าง เพื่อให้สังคมเรียนรู้ร่วมกัน มีการคืนความรู้ภูมิปัญญาให้กับประชาชนได้ทราบตั้งแต่รากฐาน การเตรียมสมุนไพรดั้งเดิม อย่าปล่อยให้มีการทำลายภูมิปัญญาดั้งเดิมจนทำให้ยาดองกลายเป็นสิ่งเลวร้าย ทุกวันนี้เราเองยังเลิกขายเหล้าไม่ได้ เมื่อเลิกไม่ได้ก็ต้องให้ความรู้ ยาดองก็เช่นกัน เพราะเป็นวิถีชีวิต การพึ่งพาตนเอง วัฒนธรรม

 

“วันนี้บริบททางสังคมเปลี่ยนไป องค์ความรู้ที่หายไป เกิดการผูกขาด แล้วระบบสาธารณสุขไม่ได้ส่งเสริมความรู้พื้นบ้านจริงๆ แต่ขณะเดียวกัน รากของวัฒนธรรมก็ยังไม่จางหายคนยังมีความต้องการในการกินยาดอง หลายคนอาจจะมีประสบการณ์ที่ดี ความทุกข์ยากในการเผชิญในแต่ละวัน  อาจจะทำให้เค้าถวิลหาในสถานการณ์ของชีวิตที่ยากลำบาก คน ชนบทจน เปลี่ยนมาอยู่ในเมือง แต่ยังอิงกับวัฒนธรรม ในบริบทของวิถีชุมชนหายไป แม้ตอนนี้ถ้าเปิดให้ทำเหล้าเองใหม่ก็ จะเกิดความผิดพลาดอีก เนื่องจากความรู้ความสามารถถูกทำให้หายไป ดังนั้นต้องคืนอำนาจความรู้ภูมิปัญญาให้ประชาชน”ดร.ภญ.สุภาภรณ์ กล่าว

แนะศึกษาวิจัย “รางจืด” สมุนไพรล้างพิษเมทานอล

ดร.ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการแก้ปัญหาเมทานอล อยากให้มีการวิจัยอย่างจริงจังในการใช้สมุนไพรรางจืดในการล้างพิษเมทานอล เพราะมีการศึกษาวิจัยเบื้องต้นพบว่าจะช่วยปกป้องเซลล์ร่างกายที่ได้รับพิษ โดยกลไกการลดการเกิดไลปิดเปอร์อ๊อกซิเดชั่น ซึ่งเป็นปัญหาจากพิษของเมธานอลที่เป็นต้นเหตุให้เซลล์ตาย