ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

”สมศักดิ์“ ลงนามอนุมัติงบกลาง 7.1 พันล้านบาท เสนอ ครม.พิจารณา หนุนนโยบาย “30 บาทรักษาทุกที่” ผ่าน “7 หน่วยบริการนวัตกรรม” ทั้งร้านยาคุณภาพ-คลินิกเอกชน  เพิ่มการเข้าถึงบริการสิทธิบัตรทอง เดินหน้านโยบายฯเฟส 4 ใน 31 จังหวัด ย้ำช่วยสร้างความมั่นใจ ดึงร้านยาคุณภาพ และคลินิกเอกชนทั่วประเทศร่วมให้บริการเพิ่ม

เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2567 นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในการดำเนินการ “30 บาทรักษาทุกที่” ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งได้มีการกำหนดแผนการขับเคลื่อนเป็นระยะๆ เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา โดย สปสช. ได้ดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ คือการเพิ่มทางเลือกใหม่นอกเหนือจากการรับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิ/ประจำ และเพิ่มความสะดวกในการเข้ารับบริการให้กับประชาชนผู้ใช้สิทธิบัตรทอง และลดความแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาล โดยขณะนี้ได้มีการดำเนินการใน 46 จังหวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมกรุงเทพมหานคร 

ทั้งนี้ในการเข้ารับบริการ นอกจากหน่วยบริการปฐมภูมิ/ประจำตามสิทธิของประชาชนแล้ว ที่ผ่านมา สปสช. ได้เพิ่มการเข้าถึงบริการโดยใช้กลไก “หน่วยบริการนวัตกรรม” เข้ามาสนับสนุนการให้บริการ โดยขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการกับ สปสช. ดังนี้ คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น 596 แห่ง คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น 994 แห่ง ร้านยาคุณภาพ 5,216 แห่ง คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น 155 แห่ง คลินิกการพยาบาลชุมชนอบอุ่น 2,490 แห่ง คลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น 277 แห่ง และคลินิกการแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น 266 แห่ง  

 

นพ.จเด็จ กล่าวว่า จากที่ได้เริ่มให้บริการในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ผลปรากฏว่าประชาชนให้การตอบรับในการเข้ารับบริการอย่างมาก โดยมีข้อมูลในระบบ สปสช. มีการเข้ารับบริการภาพรวมเป็นจำนวนกว่า 7.6 ล้านครั้ง ซึ่งแยกตามประเภทหน่วยบริการ มีจำนวนการเข้ารับบริการ ดังนี้ คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น 723,320 ครั้ง คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น 198,294 ครั้ง ร้านยาคุณภาพ 2,898,728 ครั้ง คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น 111,594  คลินิกการพยาบาลชุมชนอบอุ่น 3,614,500 ครั้ง คลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น 137,931 ครั้ง และคลินิกการแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น 4,579 ครั้ง โดยในส่วนของค่าบริการ ขณะนี้ได้มีการเบิกจ่ายไปแล้วส่วนหนึ่งจำนวนกว่า 1,591 ล้านบาท และยังมีที่อยู่ระหว่างการทยอดเบิกจ่ายเพิ่มเติม

อย่างไรก็ดี ด้วยจำนวนการตอบรับบริการหน่วยบริการนวัตกรรมตามจากข้อมูลที่ปรากฏนี้ ทั้งยังเป็นบริการที่อยู่นอกงบประมาณเหมาจ่ายรายหัวที่ให้กับหน่วยบริการประจำ ดังนั้นเพื่อให้นโยบายของรัฐบาลเป็นไปตามเป้าหมาย รวมถึงการการขับเคลื่อนตามแผนในระยะที่ 4 ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งใน 46 จังหวัดที่ดำเนินการไปแล้ว และในอีก 31 จังหวัดที่เตรียมดำเนินการต่อเนื่อง ที่ผ่านมา สปสช. จึงได้จัดทำแผนเพื่อขอสนับสนุนงบกลางจากรัฐบาลเป็นจำนวน 7,100 ล้านบาทเพิ่มเติม ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากบอร์ด สปสช.เป็นที่เรียบร้อยแล้วและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สมศักดิ์ เทพสุทิน ได้ลงนามในหนังสือเพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้การพิจารณาและความเห็นชอบต่อไป    

นพ.จเด็จ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า นอกจากนี้งบประมาณจำนวน 7.1 พันล้านบาทนี้ ส่วนหนึ่ง สปสช. ยังนำไปใช้ในการสนับสนุนหน่วยบริการทุกระดับที่มีอยู่เดิมในระบบบัตรทองด้วย โดยเฉพาะในส่วนของโรงพยาบาลต่างๆ โดยเฉพาะภายใต้สังกัดกระทรวงสาธารณสุขที่ร่วมให้บริการตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ซึ่งโรงพยาบาลหลายแห่งทั่วประเทศได้มีการให้บริการและสำรองจ่ายไปก่อน ซึ่งเป็นส่วนทำให้นโยบายนี้บรรลุเป้าหมายด้วย   

“งบประมาณฯ นี้จะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนขับเคลื่อนนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการ โดยงบประมาณที่ได้รับเพิ่มเติมนี้ยังเป็นส่วนที่สร้างความมั่นใจให้กับร้านยา และคลินิกเอกชนต่างๆ ในการตัดสินใจเข้ามาร่วมนโยบายในการให้บริการประชาชนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นงบที่จะเข้ามาสนับสนุนการให้บริการของโรงพยาบาล ทั้งในส่วนที่สำรองจ่าย และที่จะร่วมขับเคลื่อนนโยบายฯ นี้ในการดูแลประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป” เลขาธิการ สปสช. กล่าว