ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรค เผยอย่ากังวลฝีดาษวานร “clade 1b” ในแอฟริกา แม้เป็นสายพันธุ์รุนแรง พบในเด็ก แต่ยังไม่มีรายงานในประเทศไทย และไม่จำเป็นต้องห้ามการเดินทาง เพราะไทยมีระบบเฝ้าระวังเข้ม แนะคนเดินทางไปแอฟริกา หรือ “ดีอาร์คองโก” ดูแลสุขอนามัย หากกลับประเทศมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ทันที ขณะที่เว็บไซต์คร.เผยข้อมูลฝีดาษวานรพบมาก 10 จังหวัด

 

เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่กรมควบคุมโรค(คร.) พญ.จุไร  วงศ์สวัสดิ์  นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ผู้ช่วยรองอธิบดีกรมควบคุมโรค และ นพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ  นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ โฆษกกรมควบคุมโรค  กล่าวถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อฝีดาษวานรที่กำลังระบาดทั่วโลก โดยเฉพาะทวีปแอฟริกา

ฝีดาษวานร มี 2 สายพันธุ์

โดย นพ.วีรวัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้ฝีดาษวานรแบ่งออกเป็น 2 สายพันธ์ ได้แก่ สายพันธุ์ที่เรียกว่า clade 1 (เคลท1) หรือ สายพันธุ์แอฟริกากลาง ที่มีความรุนแรง อาจถึงขั้นเสียชีวิต พบการระบาดในแอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันออกเป็นหลัก  มีอัตราการป่วยตายสูง ยังไม่พบในประเทศไทย  และ สายพันธุ์ clade 2 หรือ สายพันธุ์แอฟริกาตะวันตก มีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์แอฟริกากลางมาก   ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ในไทยและในหลายประเทศทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โรคทั่วโลก (2022-2024) ป่วยยืนยันสะสม 99,176 ราย เสียชีวิตสะสม 208 ราย ส่วนสถานการณ์ในแอฟริกา(2022-2024) ป่วยสะสม 14,250 ราย (ยืนยัน 2,745 ราย) เสียชีวิตสะสม 456 ราย

 

ไทยแตกต่างจากสายพันธุ์แอฟริกา

สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทย  พบป่วยยืนยันสะสมสายพันธุ์ เคลท 2 จำนวน 827 ราย เสียชีวิตสะสม 11 ราย ( ข้อมูลตั้งแต่ม.ค.-10 ส.ค.67 140ราย)  พบมากในเพศชาย 97.46% และเพศหญิง 2.54%

“ การระบาดฝีดาษวานร ในประเทศไทย และแอฟริกาจะแตกต่างกัน อย่างในแอฟริกาจะพบในเด็กมากกว่า และคนละสายพันธุ์กับประเทศไทย โดยไทยเป็นสายพันธุ์เคลท 2  ความรุนแรงก็แตกต่าง โดยของไทยไม่เท่าแอฟริกา อย่างไรก็ตาม จำนวนคนไข้ฝีดาษวานรในไทยน้อยกว่า ปีที่ผ่านมา เนื่องจากกรมควบคุมโรคมีการรณรงค์ให้ข้อมูลกับกลุ่มเสี่ยงมาตลอด และไทยมีระบบเฝ้าระวังสายพันธุ์ที่แอฟริกา ขณะนี้ยังไม่พบ และยังไม่จำเป็นต้องห้ามการเดินทางแต่อย่างใด” นพ.วีรวัฒน์ กล่าว

เมื่อถามอีกว่าขณะนี้โรคฝีดาษวานร ถือเป็นโรคอุบัติใหม่ของไทยอยู่หรือไม่ นพ.วีรวัฒน์ กล่าวว่า ใช่ กรณีสายพันธุ์ เคลท 2 ซึ่งยังเป็นโรคอุบัติใหม่ที่พบมาในช่วง 1-2 ปี

ยังไม่ห้ามนักเดินทาง

พญ.จุไร  วงศ์สวัสดิ์  นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ผู้ช่วยรองอธิบดีกรมควบคุมโรค  กล่าวว่า สายพันธุ์ของฝีดาษวานรสายพันธุ์ เคลท 1 จะพบในแอฟริกา ซึ่งไทยไม่มี โดยสายพันธุ์เคลท 1 มีการปรับตัวรุนแรงขึ้น เรียกว่าสายพันธุ์ clade IB (เคลท1b) โดยพบในดีอาร์คองโก (DR Congo)  ตั้งแต่กันยายน 2566 ป่วยสะสม 13,791 ราย (ยืนยัน 2,628) เสียชีวิต 450 ราย คิดเป็นอัตราเสียชีวิต 3.2%  พบผู้ป่วยเด็กเพิ่มขึ้นและมีผู้ป่วยเสียชีวิต  สำหรับเชื้อสายพันธุ์นี้แพร่ระบาดจากการสัมผัสใกล้ชิด การมีเพศสัมพันธ์  ผู้อาศัยร่วมบ้าน และติดเชื้อในสถานพยาบาล ส่วนเด็กๆ อาจติดจากผู้ปกครอง แต่สายพันธุ์ เคลท1b สามารถติดจากสัตว์ได้ เป็นไปได้ว่าผู้ปกครองไปคลุกคลีกับสัตว์ ล่าสัตว์ก็อาจติดเชื้อ และแพร่มายังเด็กๆ ได้  แต่ต้องย้ำว่า ยังไม่มีการแพร่ระบาดในประเทศไทย ของไทยจะเป็นเรื่องต้องระมัดระวังทางเพศสัมพันธ์

“แต่ต้องเตือนกันว่า หากคนไทยเดินทางไปยังประเทศแถบแอฟริกา หรือพื้นที่เสี่ยงก็ต้องระมัดระวังตัวเอง หากกลับมาแล้วมีอาการไม่สบายตัวภายใน 1 สัปดาห์ต้องรีบไปพบแพทย์ และแจ้งประวัติการเดินทาง ข้อมูลต่างๆ ซึ่งทางแพทย์ในสถานพยาบาลจะมีการวินิจฉัย และจะส่งข้อมูลมายังส่วนกลาง ที่กรมควบคุมโรคตามขั้นตอนต่อไป” พญ.จุไร กล่าว

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในดีอาร์ คองโก พบในเด็กมากขึ้น ต้องย้ำว่า เป็นสายพันธุ์เคลท 1 ที่พัฒนาความรุนแรงเป็น เคลท1b แต่เป็นสายพันธุ์ที่ไม่พบในไทย โดยสายพันธุ์แอฟริกาที่เกิดขึ้นมาจากสัตว์ป่า เพราะคนแอฟริกาจะออกไปทำมาหากิน จับสัตว์ป่าก็ทำให้ติดเชื้อ เมื่อไวรัสปรับตัวก็รุนแรงและแพร่เชื้อได้ จากการที่เป็นเชื้ออุบัติใหม่ของประเทศเขา ทำให้รุนแรงมากขึ้น

สายพันธุ์เคลท 1b โอกาสเข้าไทยมี แต่น้อยมาก 

“ถามว่ามีโอกาสเข้ามาไทยหรือไม่นั้น ต้องบอกว่า มี แต่น้อยมาก เพราะเรามีระบบเฝ้าระวัง สามารถตรวจจับได้ แต่หากใครไปเที่ยวในพื้นที่ระบาด หรือไปดีอาร์คองโก แล้วกลับมาไทย หากมีอาการไม่สบาย มีผื่น มีตุ่มขึ้นให้รีบพบแพทย์ทันที เราจะมีระบบเฝ้าระวัง ตรวจหาสายพันธุ์ตามขั้นตอน ขอย้ำว่า ระบบการเฝ้าระวังของไทยมีการเตรียมพร้อม จับได้แน่นอน แต่ขออย่าตระหนก เพราะการที่ไวรัสจะกลายพันธุ์เป็นแพร่จากคนสู่คนค่อนข้างใช้เวลาหลายปี ” พญ.จุไร กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าอาการของสายพันธุ์ทั้งเคลท 1 และเคลท 2 แตกต่างกันหรือไม่ พญ.จุไร กล่าวว่า เริ่มต้นเหมือนติดเชื้อไวรัสทั่วไป แต่จะมีตุ่มขึ้น โดยของแอฟริกาจะแตกต่างกันตรงที่ข้อมูลเด็ก จะมีปัญหาเรื่องตา จะมีอาการรุนแรง

เมื่อถามว่าจำเป็นต้องห้ามการเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยงหรือคนเดินทางมาจากประเทศนั้นๆ หรือไม่ พญ.จุไร กล่าวว่า ยังไม่ต้อง เพราะขณะนี้องค์การอนามัยโลกก็ยังไม่ได้ห้าม แต่เราต้องรักษาอนามัยส่วนบุคคลให้ดี อย่างไปเที่ยวซาฟารี ก็ต้องรักษาความสะอาด รับประทานอาหารสุก เป็นต้น

เมื่อถามว่าขณะนี้ต้องรอองค์การอนามัยโลกประกาศโรคฝีดาษวานร เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern) พญ.จุไร กล่าวว่า ไม่ได้รอ เพราะตอนนี้ไทยมีระบบเฝ้าระวังโรคตลอด จึงไม่ต้องกังวล อย่างไรก็ตาม หากมีการประกาศออกมา ทางองค์การอนามัยโลก จะมีคำแนะนำออกมา ซึ่งมาตรการต่างๆ จะขึ้นกับแต่ละประเทศ แต่ไทยเรามีระบบในการตรวจสอบ เฝ้าระวังอยู่แล้ว เราทำก่อนจะมีคำเตือนจากองค์การอนามัยโลก

เคลท 1b เป็น New Variants 

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สายพันธุ์เคลท 1b ถือเป็นสายพันธุ์ใหม่ได้หรือไม่ พญ.จุไร กล่าวว่า เรียกว่าเป็นสายพันธุ์ปรับเปลี่ยนเล็กน้อย ที่เรียกกันว่า New Variants  แต่ของไทยไม่ใช่ เป็นสายพันธุ์เคลท 2

 

10 จังหวัด พบฝีดาษวานรสูงสุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูลจากเว็บไซต์กรมควบคุมโรคเผยสถานการณืโรคติดเชื้อฝีดาษวานร (Mpox)  เกี่ยวกับแต่ละจังหวัดในประเทศไทย พบว่ามี 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด  คือ กรุงเทพมหานคร ยอดรวมสะสม 441 ราย  รองลงมา คือ จ.ชลบุรี 78 ราย นนทบุรี 42 ราย   สมุทรปราการ 31 ราย ภูเก็ต 31 ราย  ระยอง 25 ราย ปทุมธานี 25 ราย   เชียงใหม่ 23 ราย สงขลา 12 ราย และขอนแก่น 12 ราย