ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมการแพทย์ ย้ำประโยชน์เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ โดยเฉพาะทารกแรกเกิด ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ลดการติดเชื้อในกระแสเลือด ลดภาวะลำไส้เน่าร้อยละ 50

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ทารกแรกเกิดควรได้รับนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรก และหลัง 6 เดือนให้อาหารตามวัยคู่กับนมแม่จนถึง 2 ปีหรือมากกว่า 

การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในทารกแรกเกิดป่วยนั้น ให้คุณประโยชน์มากมาย ซึ่งในน้ำนมแม่มีสารอาหารที่มีความจำเพาะต่อทารกแรกเกิด มากกว่า 200 ชนิด ได้แก่ เซลล์เม็ดเลือดขาว สารให้ภูมิคุ้มกัน และฮอร์โมน หากได้รับอย่างต่อเนื่องจนอายุครบ 6 เดือน จะมีโอกาสเสี่ยงและเจ็บป่วยด้วยโรคต่าง ๆ ได้น้อยกว่าทารกที่ไม่ได้รับนมแม่ ที่สำคัญ นมแม่เป็นเสมือนยารักษาโรคและสร้างสายใยรักจากแม่สู่ลูกได้เป็นอย่างดี ยิ่งป่วยยิ่งต้องได้รับนมแม่

นพ.อัครฐาน จิตนุยานนท์ ผู้ช่วยอธิบดีกรมการแพทย์และผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เพิ่มเติมว่า ประโยชน์ของนมแม่ที่ทารกแรกเกิดที่จะได้รับ โดยเฉพาะต่อทารกที่คลอดก่อนกำหนดนั้นจะได้รับประโยชน์ ได้แก่ 

1. สร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย 

2. สร้างระบบชีวภาพของลำไส้ ช่วยในการเติบโตที่ดีให้กับผนังลำไส้ช่วยให้มีการเจริญเติบโตของระบบประสาทและหลอดเลือดของทางเดินอาหาร 

3. อุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน “โคลอสตรัม” ซึ่งเป็นน้ำนมหยดแรกที่แม้มีปริมาณน้อยแต่มีคุณค่ามาก และจำเป็นต่อลำไส้ ลดการติดเชื้อในกระแสเลือด ลดภาวะลำไส้เน่าได้ถึงร้อยละ 50  

ประโยชน์ของนมแม่ยังลดโรคจอประสาทตาผิดปกติชนิดรุนแรง น้ำนมแม่มีสารต่อต้านการติดเชื้อหลายชนิด นมแม่มีผลดีต่อการเจริญเติบโตของทารก รวมถึงด้านพัฒนาการทางด้านอารมณ์และสติปัญญา เมื่อทารกได้รับนมแม่จึงเปรียบเหมือนยารักษาโรค และภูมิคุ้มกันโรค 

สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี มีคลินิกนมแม่ให้บริการให้ข้อมูลให้คำปรึกษาการส่งเสริมให้ทารกได้รับนมแม่ โดยใช้บันได 10 ขั้น สำหรับทารกแรกเกิดป่วย ทารกแรกเกิดที่มีน้ำหนักตัวน้อยและเด็กป่วย เพื่อทารกจะได้รับนมแม่อย่างต่อเนื่อง และเติบโตได้อย่างสมบูรณ์แข็งแรง