สปสช.แจงปม ‘ยูฮอสเน็ต-ชมรมรพศ./รพท.’ ชี้เหตุผลจัดสรรเงินปลายปิด ถ้าเปลี่ยนต้องคิดถี่ถ้วน

เลขาฯ สปสช. ลั่นไม่เคยหักเงินรพ. หลังกลุ่มรพ. Uhosnet และชมรม รพศ.รพท. ร้องจัดสรรงบทำรพ.รับผลกระทบ แจงเหตุผลจัดสรรเงินปลายปิด เป็นกติกาตามกฎหมาย หากจะปรับเปลี่ยน พอมีเงินเหลือในอนาคตจะจ่ายคืนไม่ได้  ต้องคิดดีๆ

จากกรณีกลุ่มเครือข่ายรพ.สังกัดมหาวิทยาลัย และชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป(รพศ.รพท.) ขอให้ปรับเงินเท่าต้นทุนหรือไม่ลดลงกว่าที่เคยตกลง และขออย่าตัดงบฯ เพราะขณะนี้ประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง หลายแห่งขาดทุนวิกฤติระดับ 7 

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า  ไม่ได้ตัดงบฯ เพราะงบสปสช. ถูกกำหนดด้วยกติกา เป็นงบปลายปิด คือ มีเงินเท่าไหร่จ่ายตามนั้น ซึ่งหลายปีที่ผ่านมามีเงินเหลือเราก็จ่ายคืนไป แต่ปีนี้คาดว่าจะไม่เหลือ จึงถูกมองว่าไม่เพียงพอ ซึ่งกำลังดูตัวเลข  ขึ้นอยู่กับปริมาณงานด้วย ซึ่งท่านรัฐมนตรีฯ ให้นโยบายว่า หากปริมาณงานเยอะก็สมควรหางบเพิ่ม กำลังทำตัวเลขอยู่

นพ.จเด็จ กล่าวถึงการเพิ่มต้นทุน ว่า เรากำหนดเบื้องต้นอยู่แล้ว แต่ทุกที่ให้บริการ จำนวนงานเพิ่ม ทำให้อัตราส่วนลดลง จึงต้องดูว่าจะเพิ่มอย่างไร เพราะกติกา ไม่ได้ให้เพิ่ม แต่ให้พิจารณาตามอัตราปลายปิด ซึ่งย้อนหลังทุกปี เราคืนเงินเกินที่กำหนดอัตราจ่าย  8,350 บาท/adjRW (ค่าน้ำหนักสัมพัทธ์กลุ่มวินิจฉัยโรคร่วมด้วยเกณฑ์วันนอน: เป็นเกณฑ์การคำนวณจ่ายเงินให้รพ.ของสปสช.)  อย่างปี 2565 สปสช.คืนกลับไปหมื่นกว่าบาทต่อหน่วยที่กำหนดด้วย ดังนั้น ต้องมาดูว่าที่จ่ายเกินไป และเก็บสะสมในรพ. จะทำอย่างไรให้เอามาใช้ก่อน เพราะมองย้อนหลังจ่ายเกินทุกปี มีเพียง 2 ปีนี้ที่ขาด

“หากต่อไปบอกว่าจะไม่ใช้กติกาปลายปิด และถ้ามีเงินเหลือ ในอนาคตสปสช.ก็ไม่สามารถคืนได้เหมือนกัน จึงต้องมองอนาคตด้วย หากปีหน้าเงินเหลือแล้วเราคืนไม่ได้ ไม่ใช่ท่านจะมาเรียกร้องให้ปรับเปลี่ยนอีก ซึ่งกติกานี้จึงเป็นกฎหมาย การจะเปลี่ยนทุกปีคงไม่ได้ ระบบจะไม่นิ่ง” นพ.จเด็จ กล่าว

ข่าวเกี่ยวข้อง :

-“หมออนุกูล” สุดทน! ติงสปสช.สวนทางนโยบายรัฐบาล จาก “ยกระดับ” เป็น “ลดระดับ” บัตรทอง

-เครือข่ายหมอ รร.แพทย์ -รพศ.รพท.บุกยื่น “สมศักดิ์‘ ร้องปมเงิน สปสช.ทำ รพ.ขาดทุน ล่าสุดกระทบ 236  รพ.