ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“สมศักดิ์” เผย สปสช. ถกเปลี่ยนวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก HPV จาก 2 สายพันธุ์ 2 เข็ม เป็น 9 สายพันธุ์ 1 เข็ม ชี้ ราคาถูกลง มีประสิทธิภาพป้องกันเพิ่มขึ้น จาก 60% เป็น 90% คาดใช้ได้ปีงบประมาณหน้า 

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงข้อเสนอในการจัดซื้อวัคซีนป้องกันเชื้อก่อโรคมะเร็งปากมดลูก (HPV) ชนิด 1 เข็ม 9 สายพันธุ์ ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา  ได้มีการหารือถึงเรื่องการป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกซึ่งประเทศไทยได้มีการจัดสรรวัคซีนฉีดให้กับผู้หญิงอายุ 11-20 ปี มาระยะหนึ่งแล้ว แต่เป็นวัคซีนชนิด 1 เข็ม  ครอบคลุมการป้องกันเชื้อ HPV 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ที่ 16 และ 18  แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาวัคซีนชนิด 1 เข็ม ครอบคลุม 9 สายพันธุ์ ประสิทธิภาพในการป้องกันอยู่ที่ประมาณ  90% และมีราคาลดลง ถูกกว่า วัคซีนชนิด 2 สายพันธุ์ ซึ่งต้องฉีดถึง 2 เข็ม ประสิทธิภาพในการป้องกันอยู่ที่ 60% 

ดังนั้น ถ้าราคาลดลงจริง ก็มีโอกาสได้ใช้วัคซีนชนิด 1 เข็ม 9 สายพันธุ์ และหากไม่มีอะไรก็คาดว่าน่าจะสามารถใช้ได้ในปีงบประมาณหน้า ประมาณการณ์ว่าจะใช้ราวๆ 7-8 แสนโดส งบประมาณเท่าๆ กันกับกรณีการจัดหาวัคซีนชนิด 2 สายพันธุ์ และจะใช้งบประมาณของ สปสช. โดยจะฉีดให้กับผู้หญิงอายุ 11 – 20 ปี

ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับวัคซีนชนิด 2 สายพันธุ์ไปแล้ว 1 เข็ม ยังเหลืออีก 1 เข็ม ยังสามารถใช้ล็อตเดิม ส่วนล็อตใหม่รองบประมาณหน้า   

รวมถึงกรณีมีข้อร้องเรียนว่า กลุ่มเด็กผู้หญิงที่อยู่นอกระบบการศึกษายังไม่ได้รับวัคซีน ไม่สามารถหาที่ฉีดวัคซีนดังกล่าวได้นั้น เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีการหารือเพื่อหาช่องทางในการนำคนกลุ่มนี้ได้รับวัคซีนได้ด้วย 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีนายสมศักดิ์ เป็นประธาน ได้เห็นชอบในหลักการให้ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) ชนิด 9 สายพันธุ์ จ๋านวน 1 เข็ม สําหรับกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ เด็กหญิงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หรืออายุ 11-12 ปี และกลุ่มเป้าหมายที่ตกหล่น เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ   พร้อมเห็นชอบให้ยืนยันแผนความต้องการวัคซีน HPV เพิ่มเติม ปี 2567 จำนวน 1,747,000 เข็ม (กรณี ฉีด 2 เข็ม) ตามผลการทบทวนความต้องการวัคซีนสําหรับปี 2567 ภายใต้วงเงินไม่เกิน 643.2105 ล้านบาท ตามที่ได้รับการอนุมัติไว้แล้ว

นอกจากนี้ ยังเห็นชอบปรับรายละเอียดแผนการจัดหาวัคซีน HPV เนื่องด้วยมีข้อมูลทางวิชาการเพิ่มเติมเกี่ยวกับชนิดของวัคซีน วิธีการฉีด และภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้น และคณะกรรมการมีมติเห็นชอบให้ปรับชนิดของวัคซีนและจํานวนการฉีดตามข้อยืนยันทางวิชาการแล้ว โดยให้จัดหาดังนี้

1.จัดหาวัคซีน HPV ชื่อการค้าเดิม จำนวน 200,000 เข็ม วงเงินไม่เกิน 73.636 ล้านบาท เพื่อฉีดเข็ม 2 ให้กลุ่มเป้าหมายปี 2566 ที่ยังอยู่ในระบบโรงเรียน ซึ่งได้รับวัคซีนเข็ม 1 เป็นชนิดที่จําเป็นต้องฉีด 2 เข็ม และ 2.จัดหาวัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ จํานวน 773,500 เข็ม (ฉีด 1 เข็ม) สําหรับกลุ่มเป้าหมายตามสิทธิประโยชน์และตามนโยบายรัฐบาล (อายุ 13-20 ปี รวมกลุ่มเก็บตก) วงเงินไม่เกิน 568.5745 ล้านบาท

ทั้งนี้ ได้มอบ สปสช. ประสานแจ้งเครือข่ายหน่วย บริการด้านยาฯ (โรงพยาบาลราชวิถี) เพื่อดําเนินการตามกระบวนการจัดหาต่อไป และมอบ สปสช.ปรับประกาศคณะกรรมการฯ เรื่อง ประเภทและขอบเขตบริการสาธารณสุขฯ กรณีบริการวัคซีน HPV 1 เข็ม และเสนอประธานกรรมการพิจารณาลงนามต่อไป รวมถึงให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดซื้อวัคซีน HPV แบบการจัดซื้อหลายปี (Multi-year tender)