“สมศักดิ์” เปิดมหกรรมการแพทย์แผนไทย จ.พิษณุโลก ดัน ใช้ยาไทย-สมุนไพรไทย มากขึ้น หวังลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศ นำร่องให้พิษณุโลก ปลูกมะกอก นำไปทำยาลดไขมัน พร้อมเพิ่มรายได้ประชาชน เล็ง ขึ้นทะเบียน-จัดเกรด แพทย์แผนไทย   

 

เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงานมหกรรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้านไทย ระดับภูมิภาค ปีที่ 16 พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ ”การขับเคลื่อนนโยบาย เจ็บป่วยคราใด คิดถึงยาไทย ก่อนไปหาหมอ” ว่า กระทรวงสาธารณสุข เน้นย้ำถึงความสำคัญในการยกระดับ และส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และสมุนไพรพื้นถิ่น ซึ่งจะช่วยต่อยอดมูลค่าองค์ความรู้ของคนไทย สร้างทางเลือกในการรักษาตนเอง ลดการเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาล ที่สำคัญเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความมั่นคงให้กับระบบสุขภาพของไทย

โดยการจัดงานมหกรรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์พื้นบ้านไทย ระดับภาคในวันนี้ เป็นการดำเนินการตามนโยบาย ที่มุ่งหวังจะเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ การรวมตัวทางภูมิปัญญาในระดับภาค ผ่านการร่วมจัดแสดงนิทรรศการ การประชุมเสวนาวิชาการ ทำให้ผู้ร่วมงาน ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และได้รับองค์ความรู้ที่สามารถนำไปพัฒนาต่อยอด และปรับใช้ในการดูแลสุขภาพตนเองได้ในอนาคต

“วันนี้ยังเป็นโอกาสดี ที่ผมจะได้กล่าวขอบคุณ และแสดงความยินดีกับทุกท่าน ที่ได้รับการประกาศเกียรติคุณ ในฐานะผู้ซึ่งมีผลงานคุณความดี ด้านแพทย์แผนไทย โดยขอขอบคุณทุกท่าน ในฐานะผู้มอบภูมิปัญญาตำรับยาแผนไทย ตำราการแพทย์แผนไทย ให้เป็นของแผ่นดิน ที่ขาดไม่ได้ ผมอยากจะขอบคุณภาคีเครือข่าย ที่ร่วมกันจัดงานมหกรรมในครั้งนี้ และขอให้พวกเราร่วมกันอนุรักษ์ ปกป้อง และคุ้มครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และสมุนไพรไทย ให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป ส่วนหมอมือทอง 100 คน ที่เป็นภูมิปัญญาของคนไทย ผมก็อยากให้มีการขึ้นทะเบียนและจัดเกรด เพื่อเป็นการยกระดับแพทย์แผนไทยด้วย” รมว.สาธารณสุข กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตนเห็นว่าบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข ทำงานอย่างหนัก โดยดูจากตัวเลขผู้เจ็บป่วยบัตรทอง ที่มีคนเข้าโรงพยาบาล ปีละ 304 ล้านครั้ง หรือ เฉลี่ยคนละ 4-5 ครั้งต่อปี แต่หมอ พยาบาล ก็ยังขาดแคลน ตนจึงกำลังเร่งเพิ่มบุคลากร โดยจะเสนอแผนในที่ประชุม ครม. วันที่ 30 ก.ค.นี้

ลดนำเข้ายาต่างประเทศ

ทั้งนี้ ตนกำลังเดินหน้าลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศด้วย และสนับสนุนให้ใช้ยาไทย สมุนไพรไทยมากยิ่งขึ้น เพราะหากโลกเกิดวิกฤติ จะไม่สามารถนำเข้ายาจากต่างประเทศได้ เช่น ช่วงโควิดระบาด ยารักษาก็ขาดแคลน ตนจึงสนับสนุนให้ใช้ฟ้าทะลายโจรแทน โดยจากข้อมูล สปสช.ซื้อยาเคมีนำเข้าถึง 7 หมื่นล้านบาท แต่ซื้อยาไทย เพียง 1,000 ล้านบาท ตนจึงให้เพิ่มอีก 50% เป็น 1,500 ล้านบาท เพื่อเป็นการส่งเสริมสมุนไพรไทย และในจังหวัดพิษณุโลก ตนก็กำลังดูว่า จะส่งเสริมให้ปลูกมะกอกได้หรือไม่ เพื่อเป็นสมุนไพร นำไปทำยาลดไขมัน และเพิ่มไขมันดี ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้นด้วย

จากนั้น นายสมศักดิ์ พร้อมคณะ ได้เดินทางต่อไปยังโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกพรหมพิราม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยฯ ทั้งการดูแลผู้ป่วยใน การบำบัดรักษาด้วยการแพทย์แผนไทย พร้อมพบปะ อสม.จังหวัดพิษณุโลก กว่า 500 คน