ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เครือข่ายเยาวชนไม่นะกัญชาฯ ออกแถลงการณ์ 3 ข้อ ถาม “นายกรัฐมนตรี” เหตุใดถึงเปลี่ยนไปมา เมินเสียงประชาชนกว่า 2 แสนคน โลเลไม่เอากัญชากลับเป็นยาเสพติด แต่จะผลักดันร่างพ.ร.บ.ฯ  ทั้งที่ใช้เวลานาน ทำไร้การควบคุม  ขอให้ทบทวนตามกระบวนการเข้าสู่ป.ป.ส. เพื่อเยาวชนได้รับการคุ้มครองด้วยกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564

 

ตามที่มีกระแสข่าวนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เตรียมดำเนินการขับเคลื่อนร่างพ.ร.บ.กัญชากัญชง จนเกิดกระแสข่าวว่า จะไม่ดันกัญชากลับเป็นยาเสพติดเหมือนนโยบายตอนแรก ขณะที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ยังยืนยันว่าเหมือนเดิม เพียงแต่หากจะผลักดันให้เป็นพ.ร.บ.ก็ทำได้อีกทางเช่นกัน ไม่ได้ขัดขวางนั้น

ล่าสุดวันที่ 23 กรกฎาคม เครือข่ายเยาวชนไม่นะกัญชาและยาเสพติด (YNAC) ออกแถลงการณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า จากการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเปลี่ยนใจไม่นำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด และให้มีการควบคุมด้วย พ.ร.บ. แทน ซึ่งเมินเสียงของประชาชน 2 แสนกว่า คนที่ได้ลงชื่อเห็นด้วยให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดประเภท5 ไม่สนใจเสียงของประชาชนกว่า 80,000 คน หรือ 80% ที่เห็นชอบร่างประกาศ กระทรวงสาธารณสุขฉบับนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด (จากการลงชื่อกว่า 100,000 คน) 
เมินผลโพลของนิด้าว่าของประชาชนกว่า 75% ที่เห็นด้วย ให้นำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด 

ทางเครือข่ายฯ จึงมีคำถามไปยังท่านนายกรัฐมนตรี 3 ข้อ ดังนี้

1. เหตุใดท่านถึงมีการโลเล เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา โดยไม่สนใจเสียงของประชาชน ทั้งที่ผ่านมาประชาชนได้รับผลกระทบจากการปลดล็อกกัญชาเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งมีหลักฐานเป็นที่ปรากฏชัดให้กับสังคมและเยาวชนเป็นอย่างยิ่ง และตัวท่านเองก็เป็นคนสั่งการผ่านทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้นำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด แต่วันนี้บอกว่าไม่ต้องเป็นยาเสพติดแล้ว

2. ท่านรู้หรือไม่ ว่าการออก พ.ร.บ. กัญชา ที่ท่านจะใช้ควบคุมนั้น กว่าจะผ่านออกมาเป็นกฎหมายได้ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ปี และท่านก็จะปล่อยให้กัญชาเสรีแบบนี้ต่อไป ให้ประชาชนและเยาวชนได้รับความเดือดร้อนแบบนี้ต่อไป หรือการที่ท่านรอพระราชบัญญัติกัญชา ท่านอยากให้มีการใช้กัญชาเพื่อนันทนาการ
กันแน่หรือไม่

3. ท่านได้เห็นผลประโยชน์ทางการเมือง มากกว่าผลประโยชน์ของประชาชน แบบนั้นจริงหรือ
ทั้งที่ประชาชนส่วนใหญ่อยากให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด หรือแม้แต่ตัวท่านเองก็อยากให้กัญชากลับไปเป็น ยาเสพติด และนโยบายของรัฐบาลเองก็เน้นในการปราบปรามยาเสพติด แต่ท่านกลับปล่อยให้กัญชา ซึ่งเป็น
สารเสพติดในสากลโลก หรือสหประชาชาติต่างก็บอกว่ากัญชาคือยาเสพติด การกระทำของท่านขัดแย้งกับคำพูดจริงหรือไม่

ดังนั้น ทางเครือข่ายฯ อยากให้ท่านทบทวนให้นำกัญชากลับเข้าไปบัญชียาเสพติดตามกระบวนการ
ที่กำลังจะทำอยู่ และใกล้จะทำสำเร็จอยู่แล้ว เหลือแค่ความเห็นชอบจากคณะกรรมการป.ป.ส. ประชาชน
และเยาวชนจะสามารถได้รับการคุ้มครองด้วยประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 ทันที โดยที่ไม่ต้องรอ พ.ร.บ. กัญชาที่ต้องรอ 2-3 ปี และตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 กัญชาสามารถ ใช้ทางการแพทย์และงานวิจัยได้ ซึ่งก็จะตรงกับเจตนารมณ์ของรัฐบาลว่าใช้กัญชาเพื่อการแพทย์

ถ้าท่านไม่ได้เห็นแก่ผลประโยชน์ทางการเมืองจริง จึงโปรดทำตามกระบวนการทางกฎหมายและฟังเสียงจากประชาชน ที่เห็นชอบให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดเป็นส่วนใหญ่ยึดมั่นตามหลักประชาธิปไตย ให้นำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง :

สมศักดิ์ ปัดตอบ “กัญชา” เปลี่ยนไปมา โยงการเมืองดีลเขาใหญ่หรือไม่(คลิป)