กรมวิทย์ฯถ่ายทอด 2 นวัตกรรมทางการแพทย์สู่เอกชน ช่วยลดค่าใช้จ่ายการตรวจ

กรมวิทย์ฯ ลงนามสัญญาถ่ายทอด 2 นวัตกรรมทางการแพทย์สู่เอกชน ทั้งเทคโนโลยีตรวจหาปริมาณเชื้อเอชไอวีในกระแสเลือด และเทคโนโลยีการผลิตวัสดุอ้างอิงการตรวจ เช่น เอชไอวี ไวรัสตับอักเสบ และซิฟิลิส ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการตรวจได้ 

เมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า กรมวิทย์ได้ลงนามสัญญาถ่ายทอดเทคโนโลยีกับบริษัท วีเมด แล็บ เซ็นเตอร์ จำกัด จำนวน 2 สัญญา ได้แก่ 

1. เทคโนโลยีการผลิตวัตถุทดสอบชนิดแห้งจากน้ำเพาะเลี้ยงเซลล์ 8E5 สำหรับตรวจหาปริมาณเชื้อเอชไอวีในกระแสเลือดด้วยเครื่องตรวจวิเคราะห์อัตโนมัติ 
2. เทคโนโลยีการผลิตวัสดุอ้างอิงการตรวจเอชไอวี ไวรัสตับอักเสบซี ไวรัสตับอักเสบบี และซิฟิลิส ทางซีโรโลยี  

ทั้งนี้ กรมได้ศึกษาวิเคราะห์วิจัยเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และสาธารณสุข และถ่ายทอดไปสู่ภาคเอกชน เพื่อนำไปผลิตเชิงพาณิชย์ โดยนวัตกรรมทั้ง 2 เรื่องดังกล่าว พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ด้านการควบคุมคุณภาพการตรวจทางห้องปฏิบัติการของเชื้อถ่ายทอดทางการให้เลือด ซึ่งเป็นเชื้อที่สำคัญที่ห้องปฏิบัติการโรงพยาบาลจำเป็นต้องตรวจหา ได้แก่ เชื้อเอชไอวี ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี และซิฟิลิส 

นพ.ยงยศ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาการผลิตวัตถุทดสอบจากพลาสมาผู้ติดเชื้อเอชไอวีมีข้อจำกัด เรื่องปริมาณการผลิตความคงตัวต่ำ ต้องควบคุมอุณหภูมิการขนส่งและการเก็บรักษาวัตถุทดสอบต้องผ่านการรับรองมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง ทีมผู้วิจัยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จึงพัฒนาวิธีเตรียมวัตถุทดสอบจากน้ำเพาะเลี้ยงเซลล์และพัฒนาให้อยู่ในรูปแบบแห้ง ไม่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ มีความคงตัวในการขนส่งและเก็บรักษา โดยผู้ป่วยเอชไอวี จำเป็นต้องตรวจปริมาณไวรัสในกระแสเลือดอย่างต่อเนื่อง นวัตกรรมนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการตรวจได้ ทั้ง นี้การผลิตนวัตกรรมทั้ง 2 ชนิดดังกล่าว ภาคเอกชนมีความพร้อมที่จะผลิตในเชิงพาณิชย์ในอีก 3 เดือน และคาดว่าจะสามารถผลิตเพื่อส่งออกในภูมิภาคและทั่วโลกได้ต่อไป ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการสนับสนุนด้านเศรษฐกิจสุขภาพซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข