เครือข่ายสาธารณสุขฯ ยื่นหนังสือถึง “ชลน่าน” ตามความคืบหน้ากรณีกำหนดตำแหน่ง “นักสาธารณสุข”

"สมาพันธ์เครือข่ายสาธารณสุขฯ - เครือข่ายนักสาธารณสุข" ยื่นหนังสือถึง "ชลน่าน" ใน 8 ประเด็นหลัก ติดตามความคืบหน้ากรณีจัดคนเข้าสู่ตำแหน่ง "นักสาธารณสุข" เผยผ่านมาเกือบ 6 เดือนแล้วยังไม่มีความคืบหน้าเลย

เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2567 ที่ผ่านมา นางทัศนีย์ บัวคำ สมาพันธ์เครือข่ายสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมไทย (สคสท.) และเครือข่ายนักสาธารณสุข ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข (สธ.) เพื่อติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดบุคคลเข้าสู่ตำแหน่งนักสาธารณสุขและอื่นๆ ใน 8 ประเด็น โดยมี นพ.เกษม ตั้งเกษมสำราญ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง และสาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 13 กทม. เป็นผู้รับหนังสือ

นางทัศนีย์ กล่าวว่า เวลาล่วงเลยผ่านมาเกือบ 6 เดือนแล้ว แต่พบว่ายังไม่มีเรื่องใดที่ส่งผลสำเร็จมีความคืบหน้า แม้แต่เรื่องการจัดคนที่มีคุณสมบัติลงในตำแหน่งนักสาธารณสุข ที่ ก.พ.มีมติเห็นชอบไปด้วยแล้ว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบวิชาชีพและเงินตอบแทนวิชาชีพหรือเงินประจำตำแหน่งที่ทัดเทียมหรือเหมือนกับทุกวิชาชีพ

สำหรับรายละเอียดการติดตามความคืบหน้า ใน 8 ประเด็น มีดังนี้

1. ให้ สธ. เร่งดำเนินการจัดคนลงในตำแหน่งนักสาธารณสุข โดยให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.วิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน พ.ศ. 2556 ซึ่งมีผลบังคับใช้มานานถึง 10 ปี รวมถึงให้เป็นไปตามมาตรา 62 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 โดยที่คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ได้เห็นชอบประกาศมาตรฐานกำหนดตำแหนงนักสาธารณสุขเพิ่มขึ้นใหม่ ตลอดจนมีมติเห็นชอบกำหนดสายงานนักสาธารณสุขในโครงสร้างส่วนราชการบริหารส่วนภูมิภาคสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) โดยใช้กรอบอัตรากำลังร่วมกับตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขและเจ้าพนักงานสาธารณสุข (จพ.) ซึ่งปัจจุบันยังไม่สามารถจัดผู้มีคุณสมบัติลงในตำแหน่งได้ ส่งผลถึงการปฏิบัติงานในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพและการได้รับค่าตอบแทนในตำแหน่งนักสาธารณสุข

2. ให้เพิ่มชื่อตำแหน่งนักสาธารณสุขลงในกฎ ก.พ.ว่าด้วยเงินประจำตำแหน่ง ซึ่งทราบข้อมูลมาว่า สภาการสาธารณสุขชุมชนได้ทำหนังสือขอให้สำนักงาน ก.พ. ดำเนินการดังกล่าวร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขแล้ว ก่อนที่ต่อมาทางสำนักงาน ก.พ. จะแจ้งว่าได้พิจารณาแล้วเห็นว่า สธ. เป็นหน่วยงานหลักในการให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชนโดยมีตำแหน่งนักสาธารณสุขเป็นสายงานที่ปฏิบัติงานอยู่ใน สธ. จึงส่งหนังสือของสภาการสาธารณสุขชมชนให้ สธ. เพื่อประกอบด้วยพิจารณาดำเนินการต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว

3. ให้บุคคลที่ดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงาน ได้แก่ เจ้าพนักงานสาธารณสุข เจ้าพนักงานทันตสาธารณสุขจ เจ้าพนักงานเภสัชกรรม ฯลฯ ที่มีวุฒิปริญญาตรีด้านสาธารณสุขและมีใบประกอบวิชาชีพการสาธารณสุข ให้เข้าสู่ตำแหน่งนักสาธารณสุข เป็นกรณีพิเศษ

4. ให้นักสาธารณสุขได้รับเงินประเภทค่าตอบแทนวิชาชีพและเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ สำหรับผู้ปฏิบัติงานด้านการสาธารณสุข (พ.ต.ส.) หรือเงินตอบแทนอื่นๆ อย่างเหมาะสมและเป็นธรรมทัดเทียมทุกวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุข

5. ให้บรรจุกลุ่มพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พ.ก.ส.) และกลุ่มลูกจ้างที่ตกหล่นจากสถานการโควิด-19 เป็นข้าราชการในสังกัด สธ.

6. ให้ปรับโครงสร้างบัญชีเงินเดือนข้าราชการ กรณีเพดานเงินเดือนตันและมีความเหลื่อมล้ำ

7. ให้ข้าราชการที่ครองตำแหน่งสายงานวิชาการสามารถเลื่อนขึ้นระดับชำนาญการพิเศษ (ซี8) ส่วนข้าราชการที่ครองตำแหน่งสายงานทั่วไปให้เลื่อนขึ้นระดับอาวุโส (ซี7-ซี8) โดยไม่ยุบตำแหน่ง

8. สนับสนุนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรื่องแยกออกจาก ก.พ. ให้มีระเบียบบริหารราชการบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุขเอง