สปสช.จับมือ 4 รพ.เอกชนใน กทม.-ปริมณฑล เพิ่มนวัตกรรมบริการผ่าตัดทำเส้นเลือดถาวร ผู้ป่วยไตวายสิทธิบัตรทองไม่ต้องรอคิวนาน ลดการติดเชื้อ ดึงแพทย์ รพ.เอกชน เข้าร่วมบริการ ผู้ป่วยที่ต้องทำเส้นเลือดถาวรเพื่อฟอกไต หากต้องรอคิวนาน ให้ติดต่อสายด่วน สปสช. 1330 กด 9 เจ้าหน้าที่จะนัดหมายให้ไปรับบริการที่ รพ.เอกชนทั้ง 4 แห่ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 

วันที่ 30 เมษายน 2566 พญ.ลลิตยา กองคำ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สปสช.ได้เพิ่มบริการใหม่เพื่อให้ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองได้เข้าถึงการรักษาที่รวดเร็วขึ้น โดยได้ประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลเอกชน 4 แห่งที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ให้บริการการทำ “เส้นเลือดถาวร” (Vascular access) สำหรับฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมในผู้ป่วยไตวายสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง 

การผ่าตัดทำเส้นเลือดถาวรให้กับผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย

ทั้งนี้ ในการผ่าตัดทำเส้นเลือดถาวรให้กับผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย เพื่อให้ได้รับการฟอกเลือดผ่านเครื่องไตเทียมนั้น ที่ผ่านมามีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งจะต้องรอคิวนานเพื่อทำเส้นเลือดถาวรสำหรับฟอกไต ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโรงพยาบาลในระบบมีศัลยแพทย์ที่ต้องผ่าตัดไม่เพียงพอ ทำให้ผู้ป่วยบางรายต้องรอคิวทำเส้นเลือดถาวร 6-12 เดือน 

สปสช.จึงได้ประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลเอกชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่อยู่นอกระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จำนวน 4 แห่ง คือ โรงพยาบาลปิยะเวท (เขตห้วยขวาง) โรงพยาบาลศรีสวรรค์ (เขตตลิ่งชัน) โรงพยาบาลอินรารัตน์ (เขตคันนายาว) และโรงพยาบาลบางนา 5 จ.สมุทรปราการ ให้บริการผู้ป่วยไตวายที่ต้องทำเส้นเลือดถาวรสำหรับฟอกไตด้วยเครื่องไตเทียม ช่วยให้ผู้ป่วยลดระยะเวลารอคิว และได้รับบริการที่รวดเร็วขึ้น โดยการบริการดังกล่าวถือเป็นนวัตกรรมบริการใหม่ เป็นบริการทั้งเชิงรุกและเชิงรับ  โดยใช้สายด่วน สปสช. 1330 เป็นฐาน

ซึ่งจะมีทั้งบริการเชิงรุก เจ้าหน้าที่สายด่วน สปสช. 1330 จะโทร.ติดต่อผู้ป่วยตามรายชื่อจากฐานข้อมูลที่มีอยู่ เพื่อประสานงานให้เข้ารับการผ่าตัดทำเส้นเลือดถาวรที่รวดเร็วขึ้น และเชิงรับคือ ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่รอคิวทำเส้นเลือดถาวรนาน สามารถ โทร.มาที่สายด่วน 1330 กด 9 เพื่อนัดหมายรับบริการกับโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมได้ 

พญ.ลลิตยา กล่าวต่อว่า ข้อมูลในขณะนี้ มีผู้ป่วยจำนวน 48 ราย ที่ได้รับการนัดหมายเพื่อเข้าไปรับบริการผ่าตัดทำเส้นเลือดถาวรกับโรงพยาบาลเอกชนทั้ง 4 แห่ง โดยผู้ป่วยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทางโรงพยาบาลจะเบิกค่าใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์มาที่ สปสช. รูปแบบการให้บริการดังกล่าวถือเป็นนวัตกรรมบริการที่เห็นผลได้อย่างชัดเจน เพราะทำให้ผู้ป่วยไตวายสิทธิบัตรทองได้รับการบริการทำเส้นเลือดถาวรที่รวดเร็วขึ้น คาดว่าภายใน 3-4 เดือนข้างหน้า ผู้ป่วยในพื้นที่ใกล้เคียงกรุงเทพฯและปริมณฑลจะได้รับการทำเส้นเลือดถาวรครบทั้งหมด

"สปสช.ต้องขอขอบคุณโรงพยาบาลเอกชนทั้ง 4 แห่ง ซึ่งการทําความร่วมมือกับภาคเอกชนโดยดึงศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านหลอดเลือดร่วมให้บริการ จะทำให้ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดทำเส้นเลือดที่เร็วขึ้นโดยที่ผู้ป่วยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ลดโอกาสการติดเชื้อ เป็นนวัตกรรมการบริการที่ทำให้ประชาชนสิทธิบัตรทองได้รับประโยชน์ และ สปสช.ก็เพิ่มค่าบริการเพียงเล็กน้อยแต่ได้รับประโยชน์มากกว่าเดิม ถือได้ว่าคุ้มค่า" พญ.ลลิตยา กล่าว