คกก.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ มีมติเสนอรัฐบาลผลักดันประเทศไทยเข้าร่วมเป็นภาคีพิธีสาร ว่าด้วยการขจัดการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบผิดกฎหมาย 

คณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ มีมติเสนอรัฐบาลผลักดันให้ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นภาคีพิธีสารว่าด้วยการขจัดการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบผิดกฎหมาย เพื่อจัดการปัญหาการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบผิดกฎหมายที่ตรงจุดและครอบคลุมรอบด้าน รับมือปัญหาบุหรี่เถื่อนที่ลักลอบนำเข้ามาขายในประเทศไทย ลดค่าใช้จ่ายรัฐในการรักษาพยาบาล และทำให้ประชาชนไทยมีสุขภาพดีขึ้น

วันนี้ (23 พฤศจิกายน 2565) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ (คผยช.) ครั้งที่ 3/2565 โดยมี นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ประกิต วาทีสาธกกิจ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  สสส. และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นต้น เข้าร่วมประชุม 

นายแพทย์โสภณ กล่าวว่า ปัญหาการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบผิดกฎหมาย บุหรี่หนีภาษี หรือบุหรี่เถื่อน ปัจจุบัน ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น พบการลักลอบนำบุหรี่เถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าประเทศไทยผ่านพรมแดนต่างๆ ซึ่งผลิตภัณฑ์ยาสูบหรือบุหรี่เถื่อนที่นำเข้ามีราคาถูกเมื่อเทียบกับบุหรี่ที่เสียภาษีและปฏิบัติตามกฎระเบียบของภาครัฐ เป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ยาสูบ ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนติดบุหรี่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคม ทำให้รายได้จากภาษีที่รัฐเก็บจากสินค้าบุหรี่น้อยลง ขณะที่คนไทยสูบบุหรี่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้เสนอรัฐบาลพิจารณาให้ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นภาคีพิธีสารว่าด้วยการขจัดการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบผิดกฎหมาย 

นายแพทย์โสภณ กล่าวต่อว่า การเข้าร่วมเป็นภาคีพิธีสารว่าด้วยการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบผิดกฎหมาย ภายใต้กรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก เป็นการจัดการปัญหาการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบผิดกฎหมายที่ตรงจุดและครอบคลุมรอบด้าน ซึ่งจะเกิดประโยชน์แก่ประเทศไทยหลายมิติ โดยเฉพาะปัญหาบุหรี่ผิดกฎหมายจะลดลง รัฐบาลจัดเก็บภาษีจากสินค้าเสพติดและทำลายสุขภาพได้มากขึ้น การบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบของคนไทยลดลง ลดค่าใช้จ่ายของรัฐในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยจากบุหรี่ และทำให้ประชาชนไทยมีสุขภาพที่ดีขึ้น

ด้านนายแพทย์ธเรศ กล่าวว่า ขณะนี้กรมควบคุมโรคได้เตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ทั้งเชิงเทคนิค วิชาการ และข้อกฎหมายเรียบร้อยแล้ว โดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับคณะผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานอัยการสูงสุด กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลัง และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติหลัก เพื่อให้เป็นไปตามพิธีสารฉบับนี้ ซึ่งหากรัฐบาลให้ความเห็นชอบการเข้าเป็นภาคีภายใต้พิธีสารว่าด้วยการขจัดการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบผิดกฎหมาย จะสามารถดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องได้ทันที

 

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org