รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผย สัปดาห์นี้มีการถ่ายโอน  รพ.สต. ไปยัง อบจ.เพิ่มอีก 2 จังหวัด คือ พะเยา และเชียงใหม่ รวม 11 จังหวัด จำนวน 942 แห่ง พร้อมส่งหนังสือถึงนายก อบจ. แจ้งแนวทางการถ่ายโอนบุคลากร ปีงบประมาณ 2567 กรณีไม่ได้เป็นผู้ปฏิบัติงานใน สอน./รพ.สต. หากผู้บังคับบัญชาไม่เห็นชอบ ให้ทำเรื่องโอนย้ายตามปกติ โดย อบจ.ต้องมีตำแหน่งรองรับ

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2565 นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ  60 พรรษา นวมินทราชินี (สอน.) และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ดำเนินการเพิ่มอีก 2 จังหวัด คือ พะเยา 55 แห่ง และเชียงใหม่ 62 แห่ง รวมถ่ายโอนภารกิจแล้ว 11 จังหวัด 942 แห่ง 

ทั้งนี้  ในการถ่ายโอนรอบปีงบประมาณ 2566 เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา มีบุคลากรที่ไม่ได้ปฏิบัติงานตามภารกิจของ สอน./รพ.สต. ถ่ายโอนไปด้วยรวม 1,365 ราย (ปฏิบัติงานในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ) ทำให้เกิดผลกระทบต่อกรอบอัตรากำลังของหน่วยบริการในระดับทุติยภูมิและตติยภูมิของกระทรวงสาธารณสุข

 

นพ.พงศ์เกษม กล่าวต่อว่า เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับคุณภาพการให้บริการของกระทรวงสาธารณสุข และการดำเนินการถ่ายโอนในรอบปีงบประมาณ 2567 เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เรื่อง หลักเกณฑ์และขั้นตอนการถ่ายโอน สอน.และ รพ.สต.ให้แก่ อบจ. กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และนายก อบจ. ทุกแห่ง แจ้งแนวทางการถ่ายโอนบุคลากร โดยขอให้ อบจ. ดำเนินการดังนี้

 
1.ส่งข้อมูลรายละเอียดบุคลากรที่ประสงค์ถ่ายโอนไป อบจ.ปีงบประมาณ 2567 ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทราบและพิจารณาต่อไป 

2.กรณีบุคลากรนั้นไม่ได้ปฏิบัติงานใน สอน./รพ.สต.ที่ถ่ายโอนภารกิจ ต้องให้ผู้บังคับบัญชา (นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป) พิจารณาให้ความเห็นก่อน โดยถ้าเห็นชอบให้ดำเนินการตามแนวทางการถ่ายโอนได้ หากผู้บังคับบัญชาไม่เห็นชอบ แต่อบจ.ประสงค์จะรับโอนและบุคลากรยืนยันจะขอโอน ให้ อบจ.ดำเนินการตามขั้นตอนการโอนย้ายปกติ คือ ทาบทามการโอนมาที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และต้องมีตำแหน่งว่างเพื่อรองรับบุคลากรนั้น 

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org