กรมการแพทย์เตรียมวิจัยนำสารสกัดจากกัญชา CBD ชนิดหยอดใต้ลิ้น เพื่อลดอาการถอนเมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการบำบัดรักษาผู้ติดยาบ้า ลดการกลับไปเสพซ้ำ ลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศ

     
นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า  กัญชามีประโยชน์ทางการแพทย์หลายประการ ที่ผ่านมามีงานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นผลสำเร็จของการใช้สารสกัดจากกัญชา CBD ในทางการแพทย์ เช่น โรคปลอกประสาทอักเสบ โรคลมชักบางชนิดในเด็ก เป็นต้น ซึ่งกัญชามีสารในกลุ่มที่เรียกว่า แคนนาบินอยด์ ที่สำคัญอยู่ 2 ชนิด ได้แก่ THC (Tetrahydrocannabinol (เตตร้าไฮโดรแคนนาบินอล)) และ CBD (Cannabidiol (แคนนาบิไดออล)) โดยสารทั้งสองเมื่ออยู่ในร่างกาย จะจับกับตัวรับแคนนาบินอยด์ในระบบประสาท  โดยพบว่า CBD ทำให้เกิดอาการผ่อนคลาย ลดอาการวิตกกังวล ลดอาการทางจิต ลดอาการคลื่นไส้ และที่สำคัญไม่ทำให้มึนเมาหรือเสพติด 


           
สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ภูมิภาคทั้ง 6 แห่งสังกัดกรมการแพทย์ ได้เล็งเห็นประโยชน์จากฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของ CBD โดยเฉพาะฤทธิ์คลายวิตกกังวล ช่วยให้นอนหลับ ลดอาการทางจิต โดยอาการเหล่านี้ เป็นอาการที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยที่ติดยาบ้า หรือเมทแอมเฟตามีน และเกิดอาการถอนยา (amphetamine withdrawal syndrome) ซึ่งการเสพติดยาบ้าเป็นปัญหาหลักของประเทศไทย

โดยข้อมูลจากระบบการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดของประเทศ (บสต.) มีผู้เสพยาดสพติดเข้ารับการบำบัดรักษาปีละประมาน 200,000 ราย โดยเป็นผู้ที่ใช้ยาบ้าสูงที่สุด คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 75 และในปัจจุบันพบว่าอาการทางจิตจากยาบ้ามีแนวโน้มรุนแรงและพบได้มากขึ้นเรื่อยๆ และที่สำคัญยังไม่มียาที่มีประสิทธิภาพที่ดีพอในการรักษาผู้ติดยาบ้า ทำให้ผู้ป่วยมีการเสพยาซ้ำและก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา
             
จากข้อมูลดังกล่าว จึงได้ทำแผนการศึกษาวิจัย โดยใช้สารสกัด CBD ชนิดหยอดใต้ลิ้น เพื่อลดอาการถอนเมทแอมเฟตามีน เปรียบเทียบกับการใช้ยา Bupropion ซึ่งเป็นยาต้านซึมเศร้าที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการถอนยาเมทแอมเฟตามีน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลการศึกษาวิจัยครั้งนี้ จะสามารถใช้ CBD เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการบำบัดรักษาผู้ติดยาบ้า ลดการกลับไปเสพซ้ำ เพิ่มคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนไทย ตลอดจนลดการนำเข้ายาในการรักษาจากต่างประเทศ เนื่องจากการวิจัยนี้ใช้ CBD ที่สามารถผลิตได้ในประเทศไทย

ทั้งนี้ สามารถทำการศึกษาต่อยอดเกี่ยวกับสารสกัด CBD นอกจากจะลดความอยากยาของเมทแอมเฟตามีนแล้ว ยังสามารถใช้ทดแทนผู้ที่เสพติดเมทแอมเฟตามีนได้ ซึ่งเป็นที่ทราบอยู่แล้วว่า เมทแอมเฟตามีน เป็นยาเสพติดที่อันตราย ประกอบด้วยสารโลหะหนัก ที่ทำลายสุขภาพร่างกาย และทำให้เกิดโรคทางจิตเวชที่รุนแรง ส่วนสารสกัด CBD นั้น เป็นสารที่มีความปลอดภัย หากสามารถที่จะออกแบบมาเพื่อใช้ทดแทนการเสพติดเมทแอมเฟตามีนได้ ก็ถือว่าเป็นการใช้สารสกัด CBD เพื่อการบำบัดผู้ติด เมทแอมเฟตามีน ตามแนวทางของการลดอันตรายจากการใช้ยาหรือ Harm reduction นั่นเอง