“อนุทิน” แถลงสยบดรามาปมส่งชันสูตรผู้เสียชีวิตเหตุกราดยิงหนองบัวลำภูล่าช้า! ย้ำเสียชีวิต 37 รายทุกอย่างต้องจัดเตรียมให้พร้อมการชันสูตร หมอพยาบาล กู้ภัยระดมคนช่วยเหลือ คนในพื้นที่ หน้างานทราบดี คนที่ไม่รู้เรื่องก็พูด คอยจับผิด มานั่งดูสิ่งที่ไม่เป็นสาระของสถานการณ์ ยังมีดรามาเยียวยาจิตใจ ไม่ใช่แค่ลงไปแตะแขน มีทีมทำงานกลุ่มสหวิชาชีพลงพื้นที่ช่วยเหลือทุกครอบครัว รายบุคคล
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 ตุลาคม 2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าว "ความคืบหน้าปฏิบัติการเยียวยาจิตใจ จากเหตุการณ์รุนแรงใน จ.หนองบัวลำภู" ว่า ตนได้รับรายงานว่าเกิดเหตุร้ายขึ้น ขณะที่ตนได้ปฏิบัติราชการร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่สปป.ลาว และผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพที่ 8 อยู่ด้วย จึงได้มีการประสานกัน และตนได้โทรศัพท์ให้ท่านปลัด สธ.และอธิบดีกรมสุขภาพจิตลงพื้นที่จ.หนองบัวลำภู เพื่อสนันบสนุนช่วยเหลือทันที
“เบื้องต้นสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขต้องรีบไปที่สุด เพราะควบคุมดูแล รพ.ในจังหวัด และเรื่องเร่งด่วนที่สุด คือ ต้องช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บ ส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กๆ และที่รพ.หนองบัวลำภู ยังโชคดีที่ตอนนั้นมีแพทย์สมองอยู่ จึงได้ช่วยชีวิตเด็กทั้ง 2 คนและผู้ใหญ่ ซึ่งเด็กต้องได้รับการผ่าตัดสมองโดยด่วน อย่างไรก็ตาม ล่าสุดอาการของทุกคนปลอดภัย พ้นขีดอันตรายแล้วทุกคน จากนี้ต้องทำให้เขาฟื้นตัว และฟื้นฟูทุกอย่าง โดยเฉพาะสภาพจิตใจให้กลับคืนมาเป็นปกติมากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว
ทั้งนี้ ในคืนแรกที่รักษา ทางท่านประธานองคมนตรีได้เดินทางมา และได้อัญเชิญพระราชกระแสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถึงแพทย์ พยาบาลว่า ผู้บาดเจ็บทุกคนจะถูกรับในพระบรมราชานุเคราะห์ และทุกๆคนที่ได้รับผลกระทบไม่ใช่แค่รักษาพยาบาล แต่รวมถึงครอบครัว ญาติของผู้เสียชีวิต ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขพร้อมน้อมรับพระบรมราโชบาย อย่างไรก็ตาม ในเรื่องสถานการณ์มีผู้เสียชีวิต 37 คน มีทั้งเด็กเล็ก ผู้ใหญ่ สภาพหน้างานในคืนแรกก็โกลาหลพอสมควร เพราะทุกคนเน้นไปที่เหตุการณ์ให้ผู้เคราะห์ร้ายต้องรอดชีวิตเป็นสำคัญ จากนั้นจึงพยายามเข้าไปในเรื่องครอบครัว เยียวยาจิตใจ
“แม้จะมีดรามาว่า มีการรอ ไม่ยอมส่งชันสูตรที่อุดรอย่างรวดเร็ว เพราะต้องรอผู้ใหญ่ แต่จริงๆ คือ ต้องมีการจัดการ ซึ่งผมและท่านปลัดได้ร่วมกันสั่งการไปยังผู้เกี่ยวข้องว่า การขนย้ายร่างผู้เคราะห์ร้ายไปชันสูตรต้องพร้อมทั้งต้นทาง และปลายทาง ซึ่งขณะนั้นเรากำลังระดมแพทย์นิติเวชมาชันสูตร เพราะในพื้นที่มีแค่ 2 คน จึงต้องระดมมาจากจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งก็เร่งเดินทางกันมา กว่าจะมาถึงอุดรฯ ก็เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น ดังนั้น การที่ให้อยู่หนองบัวลำภูก่อน จึงเป็นสิ่งเหมาะสมอยู่ ที่ย้ำคือ เราจะไม่จับอัดใส่รถแน่ๆ เราไม่ทำ ตอนแรกคิดว่าจะระดมรถพยาบาลในสังกัดมาลำเลียงแบบให้การเคารพ โดยทุกท่านที่จะไปต้องมีโลงศพใส่ร่างไป และรอชันสูตรที่รพ.อุดรธานี ซึ่งเรามีผู้เคราะห์ร้ายถึง 37 ราย จึงจำเป็นต้องใช้เวลาบริหารจัดการ” นายอนุทิน กล่าว
รองนายกฯและรัฐมนตรีฯ กล่าวว่า อีกทั้ง ทางจังหวัดได้รับความร่วมมืออย่างดีจากเครือข่ายฉุกเฉิน เมื่อได้รับรายงานว่าต้องมีการลำเลียงผู้เคราะห์ร้ายในสภาพที่เรียบร้อย ก็มีการทยอยนำรถฉุกเฉินมาช่วย มีรถบรรทุกโลงศพมิดชิด ความเย็นได้ การจะจัดทุกอย่างจึงใช้เวลาพอสมควร ขณะที่รพ.อุดรธานี ปลายทางก็ต้องมีความพร้อมด้วย หากเราทำลวกๆ เร่งๆ ขอไปรพ.ก่อน สิ่งที่เกิดขึ้น ร่างผู้เคราะห์ร้ายก็จะต้องไปฝากที่มูลนิธิ จึงจำเป็นต้องจัดลำดับก่อน ทำให้การบริหารจัดการเสร็จภายในเวลา 10 โมงเช้าของวันศุกร์ที่ผ่านมา จากตอนแรกคิดว่าจะลากยาวไปถึงวันเสาร์หรือไม่ นี่คือข้อเท็จจริง เป็นประสิทธิภาพการทำงาน คนที่ไม่รู้เรื่องก็จะพูด คอยมานั่งจับผิด มานั่งดูสิ่งที่ไม่เป็นสาระของสถานการณ์ ทำให้ผู้บริโภคข่าวที่อยู่ไกลเข้าใจผิด
(ข่าวเกี่ยวข้อง : สธ.เผยอาการผู้บาดเจ็บเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู 7 รายนอนรักษาตัว ขณะนี้ทุกรายปลอดภัย)
นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับเรื่องการเยียวยาจิตใจ ท่านอธิบดีกรมสุขภาพจิตก็เดินทางไปทันที โดยตนได้ขอให้ยกกรมสุขภาพจิตไปอยู่ในที่เกิดเหตุทันที หมายถึงคนที่มีอำนาจสั่งการ มีความเกี่ยวข้องต้องไปอยู่ที่นั่น เพราะเมื่อผู้บาดเจ็บอยู่ใน รพ.แล้ว แต่เป้าหมายต่อไปคือ ต้องเร่งเข้าไปเยียวยาสภาพจิตใจของญาติๆ ทั้งญาติที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย รอดจากการถูกทำร้าย บาดเจ็บเล้กน้อย ซึ่งต้องมีอาการหวาดผวา และญาติผู้ที่สูญเสีย ทั้งพ่อแม่พี่น้อง คนรักที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ต้องได้รับการเยียวยาสภาพจิตใจอย่างเต็มที่ ซึ่งกรมสุขภาพจิตมีทีมสุขภาพจิตจากทีมสหวิชาชีพที่มาช่วยเหลือทางด้านสภาพจิตใจ เรียกว่า ทีม MCATT โดยได้ระดมทีมจากภาคอีสานและส่วนกลางลงไปดูแลแต่ละครอบครัว
“เราไม่ได้ลงไปดูแค่แตะแขน เหมือนที่เป็นข่าว เราลงไปโดยอิงหลังวิชาการ ใครมีอาการต้องรีบส่งรพ.ทันที และเราไม่ได้ดูแบบผ่านๆ เราลงไปดูรายครอบครัว และรายบุคคล ซึ่งผู้ที่อยู่ในพื้นที่จะเห็นจุดนี้ว่า มีทีม MCATT จำนวนมากอยู่ในพื้นที่ สิ่งเหล่านี้สำคัญมากเมื่อเกิดภาวะวิกฤตเช่นนี้ และกระทรวงสาธารณสุขไม่เคยนิ่งนอนใจตั้งแต่วันเกิดเหตุ ตอนนี้ผู้บาดเจ็บทั้ง 7 รายปลอดภัย รอดชีวิตแล้ว ส่วนน้องๆที่มีอาการรุนแรง 3 คนเพราะถูกทำร้ายศีรษะ ผมได้รับการรายงานจากแพทย์เชี่ยวชาญทางสมอง ว่า น้องๆอายุน้อยอยู่ โอกาสฟื้นฟูกลับมามากที่สุดยังมีมาก และผู้ใหญ่ก็จะได้รับการฟื้นฟูให้กลับมาปกติมากที่สุดเช่นกัน ตอนนี้พวกเขารอดชีวิตแล้ว จากนี้ต้องฟื้นฟูทั้งสภาพร่างกาย และสภาพจิตใจ เราจะดูแลจนเขากลับคืนสู่สภาพเดิมมากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว
(ข่าวเกี่ยวข้อง : กรมจิตฯ ห่วง “ผู้รับผลกระทบ” เหตุรุนแรงหนองบัวลำภู 2 สัปดาห์จากนี้เป็นช่วงความเศร้าเพิ่มขึ้น!)
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org
- 333 views