“อนุทิน” ขอให้ ปลัด สธ. เร่งรัดทุกเขตสุขภาพฉีดวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้นเป็นพิเศษ

รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการสธ. กำชับ “หมอโอภาส” ปลัดกระทรวงฯ เร่งฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้นให้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงสูง 608     เผยจากการลงพื้นที่ร่วม รมช.สธ. พบฉีดเข็ม 4  มีจำนวนน้อย ขอให้เร่งรณรงค์ชวนคนมาฉีด ขณะนี้มีวัคซีนเพียงพอ พร้อมคิกออฟฉีดวัคซีนเด็กเล็ก 12 ต.ค.นี้

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมผู้บริหารระดับสูง สธ. นัดแรกหลังมีการปรับตำแหน่งเมื่อช่วงฤดูโยกย้ายที่ผ่านมา เนื่องจากเกษียณอายุราชการ ว่า ในที่ประชุมได้มีการเร่งรัดใช้พัฒนาระบบสาธารณสุขทุกมิติโดยเร็ว ถ้ามีเงินงบเหลือจ่ายให้เร่งสรุปและนำมาใช้ในกิจกรรมด้านอื่นๆ ให้เกิดประสิทธิภาพและพัฒนามากขึ้น

ส่วนเรื่องโควิด 19 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้ปรับเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง สถานการณ์จนถึงวันนี้ก็ยังทรงๆ เหมือนเดิม แนวโน้มลดลงบ้างในส่วนของผู้ป่วยอาการหนัก ส่วนผู้เสียชีวิตยังอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง 608 ทั้ง 100% การรักษาผู้ป่วยจะเป็นไปตามอาการ ยืนยันว่าให้การดูแลอย่างเต็มที่ ทั้งยา เวชภัณฑ์ สถานพยาบาลมีการเตรียมความพร้อม ให้บริการผู้ป่วยโควิดตามที่แพทย์วินิจฉัยว่าควรจะรักษาเช่นไร

นอกจากนี้ ยังขอให้ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ. เร่งรัดให้ทุกเขตสุขภาพเน้นเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้นเป็นพิเศษ

นายอนุทิน กล่าวว่า จากการที่ตนและรัฐมนตรีช่วยว่าการ สธ. (นายสาธิต ปิตุเตชะ) ลงพื้นที่ ส่วนใหญ่เห็นว่า อสม.ฉีดวัคซีนครบ 4 เข็มแล้ว แต่นอกกลุ่ม อสม. ชาวบ้านทั่วไป ยังฉีดเข็ม 4  น้อยอยู่ ซึ่งเรามีการเตรียมวัคซีนไว้เพียงพอ ดังนั้น เมื่อเราผ่อนคลายมาตรการขนาดนี้ ไม่มีมาตรการจำกัดการดำรงชีวิตแล้ว มีการทำมาหากิน สัมผัสผู้คนมากขึ้น ก็ขอให้ช่วยกันมาเพิ่มภูมิคุ้มกันด้วยเข็มกระตุ้น ไม่ว่าจะเข็ม 4 หรือเข็ม 5 ก็ยินดีฉีดให้ ซึ่งประสิทธิผลของวัคซีน 4 เข็ม แม้จะติดเชื้อก็ไม่มีผู้ใดป่วยหนักหรือเสียชีวิต อยากให้มารับวัคซีนกัน จะได้ไม่ต้องกังวล สามารถทำมาหากินอย่างคล่องแคล่ว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องสถานการณ์น้ำท่วม เรามีการเตรียมความพร้อมทั้งหมด ทั้งการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิตประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และจะดูแลไปจนถึงหลังน้ำลดด้วย เพราะหลังน้ำลดก็จะยังมีเรื่องของการติดเชื้อต่างๆ ได้อีก ก็กำชับสถานพยาบาลและเขตสุขภาพต่างๆ ให้เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ สำหรับกรณีขับรถตามจีพีเอสที่นำทางมายังบริเวณถนนที่มีน้ำท่วมแล้วเกิดอุบัติเหตุตกน้ำ โดยพลเมืองดีเข้าช่วยและเสียชีวิตนั้น หากอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้เราอาจจะพึ่งเครื่องมือตลอดไม่ได้ อาจจะต้องดูว่าควรจะไปในเส้นทางที่จีพีเอสนำทางไปหรือไม่ อาจต้องดูความปลอดภัยโดยรอบด้วย หรือสมมติหากมีน้ำหลากการขับขี่ช่วงกลางคืนก็ไม่ควรทำ เพราะการมองเห็นจะไม่ชัดเจน อาจตกลงไปในที่ต่ำได้ หรือหากถนนขาดก็ควรหลีกเลี่ยง

ทั้งนี้ มีรายงานว่าจะมีการคิกออฟฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กเล็กอายุ 6 เดือนขึ้นไปแต่ไม่ถึง 5 ปี จะเริ่มฉีดครั้งแรกในวันที่ 12 ต.ค.2565

 

อ่านต่อ : อัปเดตข้อมูลก่อนตัดสินใจพาลูกหลาน 6 เดือนถึงน้อยกว่า 5 ปีฉีด "ไฟเซอร์ฝาแดงเข้ม" ต.ค.นี้